ข่าว

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์" โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในยุคข้าวยากหมากแพง ราคาสินค้า ค่าน้ำค่าไฟ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น แถมเงินเก็บเงินออมยังร่อยหรอ ขณะที่รายได้ไม่เพิ่มขึ้น มิหน่ำซ้ำหลายคนรายได้ลดลง แต่รายจ่ายในชีวิตประจำวันกลับพุ่งสูงปรี๊ดทำให้อัตรา "เงินเฟ้อ" ที่เป็นดัชนีชี้วัด ว่าราคาสินค้าและบริการต่างๆ ทำลายสถิติสูงขึ้นในรอบ 13 ปี ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาถึง 5.7% ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงส่งผลกระทบกับทุกคน!!

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

  “สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์” HEAD OF HAMPTON INVESTMENT PROPERTY PROGRAM ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่าปัจจุบันปัญหาของอสังหาฯคือกำลังซื้อของลูกค้าที่ถูกบั่นทอนจากโควิดตามมาด้วยต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีชะลอตัว จากการคาดการณ์ปีนี้คอนโดยังไม่ได้กลับมาหวือหวาเพราะภาพรวมตลาดอสังหาฯตลาดบ้านเดียว ทาวน์เฮ้าส์ยังคงเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย

ทว่าในมุมมองของนักลงทุนถือเป็นโอกาสและจังหวะในการซื้อเพื่อลงทุน แต่จะลงทุนอย่างไรถึงจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สำคัญสามารถชนะเงินเฟ้อได้ !! เพราะความน่ากลัวของเงินเฟ้อ คือ ทำให้ค่าของเงินลดลง จะซื้อของแต่ละชิ้นก็ต้องใช้เงินมากขึ้น ทำให้ที่ผ่านมานักลงทุนชะลอการลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่า เนื่องจากคนนิยมคอนโดเช่าน้อยลง ยิ่งเมื่อเกิดโควิด -19  ตลาดคอนโดดิ่งลงชัดเจน จำนวนซัพพลายใหม่น้อยมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโควิดกระทบกำลังซื้อและความนิยมคอนโดลดลง

 

ทั้งนี้เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนในการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปสู่ความปกติใหม่(New Normal)ที่เกิดจากการทำงานที่บ้าน(Work from Home)ทำให้คนหันไปนิยมซื้อบ้านแทนคอนโด ส่งผลให้การลงทุนในอสังหาฯหยุดชะงัก! จากที่เคยปล่อยเช่าได้1-2ที่ผ่านมาปล่อยเช่าไม่ได้กลุ่มลูกค้านักลงทุนจึงเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจที่จะไปต่อ  กลายเป็นปัญหา
(Pain Point) ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการตัดสินใจลงทุน ยิ่งในช่วงเกิดภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนพยายามหาวิธีเพิ่มค่าของเงินในกระเป๋าตัวเองให้มากกว่าเดิม หรืออย่างน้อยก็หาให้ได้เท่ากับเงินเฟ้อที่เสียไป

 

"จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นที่มาของพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯเพื่อการลงทุน ในเครือออริจิ้น คือ HAMPTON INVESTMENT PROPERTY PROGRAM เพื่อแก้เพนพอยต์ของนักลงทุนหรือลูกค้าบางกลุ่มที่ยังรักการครอบครองคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นอสังหาฯที่เล็กที่สุด ใช้เงินลงทุนน้อยที่สุด และสามารถปล่อยเช่าได้คล่องตัวกว่า แต่ที่ผ่านมาลูกค้าเจ็บจากการปล่อยเช่าไม่ค่อยได้ และไม่มีเวลา"

 

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

โดยมีหลักประกันในรูปแบบของโฉนด ยิ่งนาน ราคาก็ยิ่งเพิ่ม เพราะเมื่อดูดัชนีราคาคอนโดฯเทียบภาวะเงินเฟ้อในกรุงเทพฯและปริมณฑลช่วง 13 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2563 ราคาคอนโดฯอยู่ที่ 188.67 สามารถเอาชนะเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ 115.02 ได้ ทั้งนี้การลง
ทุนอสังหาฯยังไม่ผันผวนหรือสวิงเหมือนการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีหรือหุ้นบางตัว และเสน่ห์ของโปรแกรมนี้คือจะช่วยให้นักลงทุนมีรายได้ค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอในทุกเดือน ตลอด 10+10 ปี

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

 

"โปรแกรมนี้เกิดจากความคิดที่ออริจิ้นต้องการดิสรัปตนเองจึงเกิดโครงการนำร่องขึ้นมาเหมือนกับสตาร์ทอัพ  โปรเจคแรก เดอะ แฮมป์ตัน สวีท ศรีราชาเป็นเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ 5 ดาว ผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นญี่ปุ่น จำนวนรวมกว่า 300 ห้อง ขายหมดภายในเดือนเดียว ซึ่งคนซื้อเป็นกลุ่มนักลงทุนคนไทย100% ที่กลับมาซื้อเพื่อลงทุน"

 

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

 

ทั้งนี้ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์นักลงทุน เพราะมีรายได้ ค่าเช่าทุกเดือนสม่ำเสมอ ไม่ต้องวุ่นวายกับผู้เช่าด้วยตนเอง เนื่องจากมีทีมมืออาชีพ Hampton Hotel & Residence Management (HHR)จาก วัน ออริจิ้น ในการบริหารจัดการการลงทุนปล่อยเช่า ให้เจ้าของห้องหรือนักลงทุนไม่เสียเวลากับการหาผู้เช่าหรือความเสี่ยงจากการลงทุนต่างๆโดยหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น จะเริ่มเห็นการเติบโตของผู้เช่าชาวต่างชาติมากขึ้นด้วย

 

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

 

"แทนที่จะซื้อคอนโดปล่อยเช่าลักษณะของ Customer to customer (C2C)ผ่านเอเจนท์ ซึ่งกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน แต่โมเดล HAMPTON INVESTMENT PROPERTY PROGRAM จะเป็น Business-to-business (B2B) ดิวกับคอร์ปเรทใหญ่ อาทิ โตโยต้า เช่าเหมาเป็นลอตให้กับพนักงานที่เป็นชาวต่างชาติ95%  มีทุกทุกธุรกิจโรงงาน วิศวกรในนิคมฯ ธนาคาร เทคนีเชียต่างชาติทำบล็อกเชน ฯลฯ ถือเป็นตลาดบลูโอเชียน ที่ไม่มีปัญหาสงครามราคา แถมยังได้ค่าเช่าขึ้นตามภาวะเงินเฟ้ออีกด้วย"

 

โดยล่าสุดทางออริจิ้น ได้นำเสนอโปรแกรม HAMPTON  RESIDENCE PHAYATHAI  สำหรับผู้ที่สนใจ  PASSIVE INCOME เป็นรายได้ประจำทุกเดือน !  โดยประมาณการผลตอบแทนที่5-9%  สัญญาระยะยาว 10+10 ปี สามารถต่อสัญญาได้ โดยใน 3 ปีแรกการันตีผลตอบแทน5% หลังจากนั้นปล่อยให้ราคาขึ้นลงตามปกติเป็นตามธรรมชาติซึ่งประมาณการอยู่ที่ 5% และในระยะยาวเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจะได้ถึง 8-9%  ไม่ต้องปวดหัวกับการหาผู้เช่า  มีบริการครบวงจรตั้งแต่ตกแต่ง หาผู้เช่า เก็บค่าเช่า ซ่อมแซม ผู้เช่าระดับเกรด A ที่สำคัญสามารถขายต่อได้ราคาสูง (CAPITAL GAIN)เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ราคาห้องเริ่มต้น 7.99ล้านบาท สูงสุด 17 ล้านบาท

 

ชนะเงินเฟ้อด้วยนวัตกรรมลงทุนอสังหาฯ "แฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์"  โปรแกรมผลิตรายได้ประจำ ต่อเนื่องนาน 20 ปี

 

"หากมองย้อนไปทุกๆ10ปี ราคาเรียลเอสเตทขึ้นทุกปีไม่ว่าเผชิญวิกฤติอะไรมา ไม่ว่าเป็นวิกฤติต้มยำกุ้งในปี2540  จึงเป็นสินทรัพย์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน ที่สามารถชนะเงินเฟ้อ และเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนมีอันจะกินได้ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างความมั่งคั่งได้อีกรูปแบบหนึ่งที่สำคัญคือความเสี่ยงต่ำ"

 

  อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ดัชนีราคาในกรุงเทพฯและปริมณฑลตามค่าเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทยคอนโดโตปีละ 8%  โดยเฉลี่ยในช่วง11ปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบแทนจากค่าเช่าได้5% เท่ากับว่าเฉลี่ยต่อปีผู้ที่ลงทุนจะได้ผลตอบแทนถึง13% ต่อปี!!

 

ผู้สนใจโปรแกรมลงทุน สำรองที่นั่ง ในงาน คลิก https://lin.ee/5FSgmC6

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ