ข่าว

จ่อยึดทรัพย์อีก 100 ล้าน "ไฮโซเนย" ศิษย์สมเด็จพระวันรัต อมเงินวัดบวรฯ

จ่อยึดทรัพย์อีก 100 ล้าน "ไฮโซเนย" ศิษย์สมเด็จพระวันรัต อมเงินวัดบวรฯ

15 พ.ค. 2565

ปปง.เตรียมยึดทรัพย์ "ไฮโซเนย" ลูกศิษย์"สมเด็จพระวันรัต" ในคดียักยอกเงินวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ล็อตสองร่วม 100 ล้านบาท

จ่อยึดทรัพย์อีก 100 ล้าน \"ไฮโซเนย\" ศิษย์สมเด็จพระวันรัต อมเงินวัดบวรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.65 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายอภิรัตน์ หรือ "ไฮโซเนย" ชยางกูร ณ อยุธยา อดีตเจ้าหน้าที่บริการโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คนสนิท"สมเด็จพระวันรัต" หลังฉ้อโกงเงินวัดกว่า 190 ล้านบาท ว่า สำหรับทรัพย์สินของ นายอภิรัตน์ หรือ เนย ที่ได้มาจากการกระทำผิดนั้น จากการสืบสวนสอบสวนพบรวมแล้วมีมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอายัดทรัพย์ไว้ในเบื้องต้น พร้อมส่งเรื่องต่อให้ทาง ปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์ ล็อตแรกไปแล้ว จำนวน 14 รายการ รวมมูลค่ากว่า 92 ล้านบาท

 

ล่าสุด ทราบว่า ปปง.เตรียมดำเนินการยึดทรัพย์ล็อตสอง เป็นทรัพย์สินจำพวก เครื่องประดับ เพชร นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่อง เงินสดที่อยู่ในบัญชีของคนใกล้ชิด อีกรวมเกือบร้อยล้านบาท ซึ่งประมาณวันที่ 18-19 พ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการประเมินราคาทรัพย์สินอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

จ่อยึดทรัพย์อีก 100 ล้าน \"ไฮโซเนย\" ศิษย์สมเด็จพระวันรัต อมเงินวัดบวรฯ

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า สำหรับการกระทำผิดของ นายอภิรัตน์ หรือ"ไฮโซเนย"นั้น เบื้องต้นถูกดำเนินคดีด้วยกันทั้งหมด 4 คดี แบ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระ โดยคดีแรกเป็นคดีการยักยอกเงินวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์พัฒนาวัด จำนวน 1 คดี คดีที่สอง เป็นคดียักยอกเงินวัดรัตนวนาราม วัดสาขา จ.ตราด ซึ่งตัว นายอภิรัตน์ ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และ ลักทรัพย์ คดีที่สามเป็นคดียักยอกเงินวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่ง นายอภิรัตน์ ถูกแจ้งข้อหา ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ลักทรัพย์ และ ฉ้อโกง ส่วนคดีที่สี่ เป็นสำนวนคดีการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดทั้งหมด

พ.ต.อ.เอนก กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความคืบหน้าสำนวนคดีทั้งหมด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มีการสรุปสำนวนส่งอัยการศาลอาญากรุงเทพ พิจารณาไปแล้ว 1 คดี คือ คดีการยักยอกเงินวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนที่เหลืออีก 3 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาเร่งสรุปสำนวน คาดว่า จะแล้วเสร็จทยอยส่งให้กับทางอัยการศาลอาญาพิจารณาในเร็วๆ นี้