น้อง"บิ๊กตู่"งานเข้า หนุ่มอ้างเป็นทหารคนสนิท จีบสาวหลอกคบยืมเงิน 3 แสน

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65 เวลา 10.00 น. นางศรยารักษ์ นางวงศ์  40 ปี  ชาวศรีสะเกษ เข้าร้องเรียนขอให้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ตรวจสอบนายบุญมี จอมหงส์ อายุ41 ปี ว่า เป็นทหารจริงหรือทหารปลอม เพราะนายบุญบอกว่าเป็นทหารบกยศผู้พันเป็นลูกน้องคนสนิทพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกรัฐมนตรี  
     นางศรยารักษ์  เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายปี 64 ที่ผ่านมา ทักมาในเพจเฟสบุ๊กตนเองทำนองว่าอยากรู้จัก ตนเองก็เลยคุยด้วย เพราะหลานเขยของนายบุญมีได้เป็นเพื่อนกับตนเองในเฟซบุ๊กเหมือนกัน หลังจากได้คุยกันสักพักหนึ่ง ก็ถูกใจ ลองคบหากัน และได้แลกไลน์กัน พอคบหากันได้ไม่นานนายบุญมี ขอยืมเงินตนเองไปทีละ10,000-20,000 อ้างว่า ทำกระเป๋าเงินหายบ้าง เอาไปลงทุนกับเพื่อนทหารด้วยกันบ้าง ต้องใช้เงินไปข้าราชการบ้าง รวมๆทั้งหมดเป็นเงิน 300,000 บาท 

     พอถึงเวลาที่ต้องคืนเงิน กลับบ่ายเบี่ยง บอกว่าเจ้านายยืมเงินไปเอาไปให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศ อ้างสารพัด ทำให้ตนเองเริ่มสงสัยว่า นายบุญมีเป็นทหารจริงหรือเปล่า จึงเอาชื่อ-นามสกุลไปให้ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบ ปรากฎว่า ไม่พบชื่ออยู่ในสารบบทหาร จากนั้นสอบถามไปยังหลานเขยของนายบุญมีที่เป็นเพื่อนกับตนเองในเฟสบุ๊ก ทราบว่า ไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้ทำงานอะไร เป็นคนขี้คุย  แต่นายบุญมียังยืนยันว่าตนเองเป็นทหารยศผู้พันจริงๆ รวมถึงยังปลอมไลน์เป็นผู้หญิง แล้วทักมาหาตนเอง มาพูดกับตนเองว่า "ฉันทำธุรกิจขายผลไม้ส่งนอกประเทศ ฉันหลงรักผู้พันบุญมีจริงๆ และบอกว่านายบุญมีคือทหารจริงๆ แต่ตนเองไม่หลงเชื่ออีกแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.ศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดี แต่เรื่องก็เงียบ 

ส่วนสาเหตุที่หลงเชื่อให้ยืมเงินไป เนื่องจากหลงเชื่อว่าทำงานรับราชการยศผู้พันและเป็นคนสนิทของน้องชายนายกรัฐมนตรี  เพราะนายบุญมีมักชอบนำรูปเพื่อนทหาร รูปขณะทำงาน รูปแตงชุดนายร้อยกระบี่มาให้ดู ยังเคยจะพาตนเองไปที่ทำงานคือค่ายทหารราบที่11 แต่พอตนเองเดินทางมาใกล้จะถึงก็บอกให้ตนกลับก่อนเพราะนายไม่อยู่ เคยส่งชุดทหารมาให้คนที่บ้านได้ใส่ และยังอ้างว่าเคยไปรบที่คูเวตมา ยังเคยมาร้องไห้กับตนเอง บอกกำลังจะถูกส่งไปรบที่พม่า ไม่อยากไป ไม่อยากทิ้งครอบครัวไป

     นายเอกภพ กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.นพดล  ทุนทวีศิลศักดิ์  ผกก.สภ.ศรีรัตนะ  จ.ศรีสะเกษ  เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอีกครั้ง เพราะเนื่องจากใบที่ผู้เสียได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมา เป็นแค่ใบลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยังไม่มีเลขคดี นอกจากนี้ยังขอให้กองทัพบก ตรวจสอบว่าบุคคลรายดังกล่าวเป็นทหารบก ชั้นยศนายพัน ทำงานกับพล.อ.ปรีชา จริงหรือไม่  ซึ่งคาดว่าอาจจะมีผู้เสียเพิ่มขึ้นมาอีกหลายราย เพราะจากการตรวจสอบในเฟสบุ๊กขอนายบุญมี สร้างขึ้นมากว่า 10 เฟส