ข่าว

"เจ้าคุณประสาร" แถลงลาออก กมธ.ศาสนา สภาฯ หลังมติ มส.ห้ามยุ่งการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เจ้าคุณประสาร" พระมหาโชว์ แถลงลาออก อนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนา สภาฯ หลังมติ มส.ห้ามยุ่งการเมือง

จากกรณีที่ ที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 มีมติห้าม พระภิกษุไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง จนเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สงฆ์อย่างกว้างขวาง ทำให้ "เจ้าคุณประสาร" แถลงลาออก

โดย พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ "เจ้าคุณประสาร" เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย พระครูปลัดสุวัฒนสัจจคุณ (ธีรวิทย์) รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอลาออกจากอนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ในกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ความว่า 

 

"ตามที่อาตมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอนุกรรมาธิการ และที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ในกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นั้น           

ในเบื้องต้น อาตมาได้รับการทาบทามไปทำหน้าที่ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพระครูปลัดสุวัฒนสัจจคุณ (ธีรวิทย์) รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ให้ไปปฎิบัติหน้าที่ดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นกรรมาธิการการศาสนาฯและอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนาฯ ผู้ที่ทาบทามได้แจ้งว่า เมื่อเป็นเรื่องของพระพุทธศาสนาโดยตรง จึงอยากจะให้มีพระสงฆ์ทั้งสองนิกาย ที่พอจะรู้เรื่องงานในกิจการของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา มาร่วมทำหน้าที่ด้วย น่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของคณะสงฆ์ และพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนาฯนั้น ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษาหรือแม้แต่ข้าราชการรัฐสภาในกรรมาธิการนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวพุทธ ดังนั้น งานที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนจึงเป็นงานด้านการพิทักษ์ ปกป้อง คุ้มครองและประสานงานด้านคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา มิใช่งานในด้านการเมืองโดยตรง 

เบื้องต้น การตอบรับเข้าร่วมงานในฐานะพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของมหาเถรสมาคม จึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงพระธรรมวินัย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งมหาเถรสมาคม กฎหมายบ้านเมือง วัฒนธรรมประเพณีและความเหมาะสมอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบด้วย         

เมื่อคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว กอรปกับในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีพระมหาเถระที่ไปทำหน้าที่ในตรงนั้นมาแล้วด้วย ดังนั้น อาตมาทั้งสองรูป จึงตกลงที่จะไปทำหน้าที่ดังที่กล่าว         

ตลอดระยะเวลา 2 ปีแรกของการทำหน้าที่ (พ.ศ. 2562 - 2563) อาตมาทั้งสองได้สำนึกตลอดเวลาว่าเรามาทำหน้าที่เพื่อคณะสงฆ์ พระพุทธศาสนาและส่วนรวม ท่านทั้งหลายสามารถไปขอดูรายงานการประชุมในแต่ละครั้งได้ เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมต้องเป็นการประชุมแบบเปิดเผย และสามารถเผยแพร่หรือให้ข้อมูลกับคนที่มาร้องขอได้ อาตมาทั้งสองจึงไม่เคยสนทนาแลกเปลี่ยน หรือประชุม หรือหารือกันทางการเมือง และตลอดเวลาที่ไปปรากฎตัวที่รัฐสภานั้น ก็ไปด้วยสำนึกของสมณภาวะตลอดเวลา เห็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็จะไม่อยู่ให้เห็นในระดับสายตา คนมากก็หลีกเลี่ยง ขึ้นลิฟท์ก็หลบ ๆ ให้คนเบาบางก่อน รวมทั้งการหลบกล้องของสื่อมวลชนรัฐสภาด้วย นี่คือการทำหน้าที่ในสองปีแรก          

การทำหน้าที่ในรอบปีล่าสุด (พ.ศ.2564 - 2565) อาตมาทั้งสองเห็นว่า การเมืองเริ่มจะเข้าสู่ปลายเทอม สมาชิกรัฐสภาอาจจะมีการปรึกษาหารือกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่บ้างหรือไม่อย่างไร ประกอบกับข่าวคราวต่าง ๆ ของพระสงฆ์ ก็มีปรากฎมากขึ้นตามสื่อต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ไม่ต้องกังวลใด ๆ ในรอบหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา อาตมาทั้งสองจึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมอนุกรรมาธิการฯแต่อย่างใด            

 

บัดนี้ เมื่อมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ได้ออกมติ เรื่องขั้นตอนของการเข้าไปทำหน้าที่ของพระภิกษุในรัฐสภา อาตมาทั้งสองแม้จะได้รับแต่งตั้งมาก่อนมติดังกล่าว แต่ด้วยเพื่อให้การปกครองคณะสงฆ์ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ดีงามและเหมาะสม อาตมาทั้งสอง ขอรับมติมหาเถรสมาคมด้วยความเคารพ และขอลาออก
จากการทำหน้าที่ดังกล่าวโดยจะได้กำหนดวัน เวลา ในการไปยื่นหนังสือลาออกต่อไป

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีพระภิกษุไปนั่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการอยู่อย่างน้อย 2 รูป คือ  

1.พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ "เจ้าคุณประสาร"

2. พระสุธีวีรบัณฑิต หรือรู้จักกันในนาม "พระมหาโชว์" เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ