"ป่าไม้" แจ้งจับ "พระบิดา" พร้อมสาวก "บุกรุกป่า" ส่วนศพรอญาติมารับกลับทำบุญ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บุกเข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรม ที่ตั้งอยู่ในป่า ในหมู่บ้านกุดแคน ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งเปิดรับรักษาโรค ด้วยวิธีแปลกประหลาด ให้ดื่มน้ำปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะ และขี้ไคลของเจ้าสำนักฯ  และยังมียาที่ดองอยู่ในโอ่งอีกนับ 100 โอ่ง ที่อ้างว่าเป็นยารักษาโรคให้ผู้ที่เข้ารับรักษา นอกจากนี้ ยังพบร่างผู้เสียชีวิต 11 ศพ บรรจุอยู่ในโลงศพ โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทวี หนันลา หรือ โจเชฟ   หรือที่ลูกศิษย์ เรียกว่า "พระบิดา"   อายุ 74 ปี เจ้าสำนัก ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าลัทธิพระบิดาทุกศาสนา ไปสอบสวนดำเนินคดี

 

 

 

 

ทั้งนี้ สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว ตั้งอยู่กลางป่าในพื้นที่หมู่ 2  ต.ดงกลาง ค.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีการปลูกกระท่อมไม้ชั้นเดียว อยู่หลายหลัง โดยในแต่ละหลังมีการนำข้าวของต่างมาวางกองสุมไว้เป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

 

 

นายสาโรจน์ บุญพร้อม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าคอนสาร ออกมายืนยันว่าพื้นที่ที่เป็นสถานที่รวมกลุ่มของลัทธิประหลาด ที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่เวลานี้ เป็นพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งตนเป็นผู้ดูแลอยู่ หลังทราบเรื่องตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันแรกแล้ว พร้อมเดินสำรวจเบี้องต้น

 

 

 

 

 

จากการจับพิกัดยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตป่าสงวน และไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน นั้นหมายความว่าอยู่ในเขตป่าไม้ 2484  และตามมาตรา4วงเล็บ1 ที่ระบุที่ดินที่ยังมีผู้ได้มา ตามประมวลกฏหมายที่ดินซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ยังต้องดูแล

 

 

 

 

ดังนั้นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างแน่นอน ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54,55  ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ออกรางวัดพิกัดทั้งหมดเพื่อคำนวนเนื้อที่ว่าได้เนื้อที่เท่าไหร่ ที่ทำความเสียหายในเขตรับผิดชอบของป่าไม้ จากนั้นก็จะนำข้อมูลทั้งหมด เข้าแจ้งความเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ3-4วัน ซึ่งจากภาพรวมและการตรวจสอบเบี้องต้น ยืนยันว่ามีการบุกรุกอย่างแน่นอน

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามกรณีซากศพทั้ง11ศพ ที่นำไปเก็บไว้ที่มูลนิธิชุมแพ โรงพยาบาลคอนสารได้เข้ามาเก็บหลักฐาน พร้อมพิสูจน์อัตลัษณ์ตามหลักวิชาการอย่างละเอียดแล้ว และทราบข้อมูลของซากศพครบถ้วนอย่างเป็นทางการ จากนั้นได้มอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการส่งมอบคืนญาติ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

 

 

วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ