ข่าว

"เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เรอัลมาดริด" ตามหลัง "แมนซิตี้" ก่อนจนถึงช่วง นาที 90 แต่ไม่ยอมแพ้กลับมายิงแซง 2-1 ผลรวมสองนัดเสมอกันที่ 5-5 ต่อเวลาพิเศษเป็น "ราชันชุดขาว" คมกว่าปิดสกอร์ชนะ 3-1 รวมสองนัด 6-5 ผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ ศึก ฟุตบอล "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" พบกับ ลิเวอร์พูล

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ประจำคืนวันพุธที่ 3 พฤษภาคม ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว บิ๊กแมตช์ คู่ระหว่าง "เรอัลมาดริด" ทีมจ่าฝูง ศึกลาลีกา สเปน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "แมนซิตี้" ทีมจ่าฝูง ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนพบกันคู่นี้ ราชันชุดขาว "เรอัลมาดริด" ทำผลงานชนะ 3 จาก 5 นัดหลังสุด ผลงานเกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ เอสปัลญ่อล 4-0 ส่วนทีมเยือน เรือใบสีฟ้า "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ทำผลงานชนะ 4 นัดติดต่อกัน ผลงานนัดล่าสุดบุกชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-0 สำหรับผลเกมนัดแรกที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าของ แมนซิตี้ เป็น แมนซิตี้ เปิดบ้านชนะ เรอัล มาดริด 4-3 

 

โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ ประกอบด้วย 

เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ , ดานี่ การ์บาฆาล , เอแดร์ มิลิเตา , นาโช่ เฟร์นานเดซ , แฟร์กล็องด์ เมนดี้ , ลูก้า โมดริช , คาเซมิโร่ , โทนี่ โครส , เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ , คาริม เบนเซม่า , วินิซิอุส จูเนียร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส , ไคล์ วอล์คเกอร์ , รูเบน ดิอาส , อายเมริค ลาปอร์กต์ , ชูเอา คันเซโล่ , เควิน เดอ บรอยน์ , โรดรี้ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ , กาเบรียล เชซุส , ฟิล โฟเด้น

เริ่มการแข่งขัน นาทีที่ 12 เรอัล มาดริด ได้จังหวะพาบอลเข้ากรอบเขตโทษของ คาริม เบนเซม่า ก่อนเลือกยิงบอลข้ามคาน ถัดมา นาที 16 แมนซิตี้ ได้โอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจากการยิงของ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงบอลไปตรงตัวผู้รักษาประตู นาที 20 จังหวะลุ้นของ เรือใบสีฟ้า จาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้โอกาสยิงด้วยซ้ายแต่เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟไว้ได้  โดยจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจบสกอร์ที่ 0-0 

 

กลับมาครึ่งหลัง นาที 50 โอกาสใกล้เคียงเป็นของทีมเยือน แมนซิตี้ ได้จังหวะหลุดมาของ กาเบรียล เชซุส ได้ยิงด้วยขวาบอลติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นาทีที่ 73 ของเกม โอกาสเป็นของ เรือใบสีฟ้า จังหวะผ่านบอลของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ให้กับ ริยาด มาห์เรซ ยิงด้วยซ้ายเข้าไปให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 นาที 86 แมนซิตี้ เกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะของ ชูเอา คันเซโล่ ยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งติดเซฟ นาทีที่ 90 "เรอัลมาดริด" มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ คาริม เบนเซม่า จ่ายบอลให้ โรดริโก้ ตวัดยิงเข้าไปให้ทีมเป็น 1-1  ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เจ้าถิ่น จะมาได้ประตูแซงขึ้นนำจากจังหวะมาร์โก อเซนซิโอ เปิดบอลให้ โรดริโก้ ขึ้นโหม่งให้นำ 2-1 ทำให้จบเวลาปกติ สกอร์รวมทั้งสองทีมกลับมาเสมอที่ 5-5 

 

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 92 จังหวะลุ้นเจ้าถิ่น จาก คาริม เบนเซม่า ยิงบอลตรงตัว เอแดร์ซอน นาทีที่ 94 เจ้าถิ่น ราชันชุดขาว มาได้จุดโทษก่อนเป็น คาริม เบนเซม่า ยิงเข้าไปให้ทีมนำ 3-1 สกอร์รวมนำ 6-5  นาที 105+2 แมนซิตี้ ได้ลุ้นจากโอกาสโหม่งของ ฟิล โฟเด้น บอลติดเซฟมาเข้าทาง เฟอร์นานดินโญ่ ซ้ำบอลหลุดกรอบ ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบช่วงต่อเวลาพิเศษ เรอัล มาดริด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 รวมผลสองนัดสกอร์รวม เรอัลมาดริด ชนะ 6-5 

อย่างไรก็ตาม "เรอัลมาดริด" ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึก "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ไปพบกับ "ลิเวอร์พูล" โดยจะแข่งขันกันที่สนาม สตาด เดอ ฟรองซ์ ประเทศ ฝรั่งเศส ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2565 

"เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

"เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

"เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก "เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก "เรอัลมาดริด" คมกว่าเชือด "แมนซิตี้" ต่อเวลา ลิ่วชิง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

 

CREDIT PHOTO : Twitter@ChampionsLeague , Twitter@ManCity , Twitter@realmadrid

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ