เพื่อนโหด "บุกยิง" เจ้าของร้านยำดับพร้อมลูกเมีย 3 ศพ ปมแค้นทำแม่ติดคุก 25 ปี

4 พ.ค. 2565 เมื่อเวลา 13.00 น.  ร.ต.อ กิตติ ใจหาญ รองสว สอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านใน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง แพทย์เวรร.พ ภูมิพลอดุลยเดช  และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน1

 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ยกพื้น พบผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย อยู่ภายในบ้าน โดยที่ระเบียงหน้าบ้าน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นางสาวกรวิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี หรือน้ำ บริเวณประตูทางเข้าบ้าน พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.ปวีณวัช (สงวนนามสกุล)  อายุ 5 ขวบ  บุตรชาย นางสาวกรวิกา  และภายในห้องนอนยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสราวุธ (สงวนนามสกุล)  อายุ 27 ปี หรือเบลล์ โดยทั้ง 3 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ได้ควบคุมตัวไปที่โรงพักก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ นายมิ้น (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมด้วย อาวุธปืนยี่ห้อglock-19 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนยี่ห้อ glock-26  ขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก

 

 

 

จากการสอบถาม นางสุรีลักษ์  (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายทั้ง 3 คนได้ออกไปซื้อวัตถุดิบ เพื่อนำมาประกอบอาหารร้านยำ 20 บาท โดยนายสราวุธ หรือ เบลล์  ได้โทรมาบอกตนเองว่า เดี๋ยวจะมีเพื่อนมา หากมาถึงเขาจะกินเบียร์ ก็เปิดให้กินก่อนเลย จากนั้นไม่นานคนร้ายก็นั่งรถแท็กซี่ มาที่หน้าบ้านพร้อมด้วยสุนัข 1 ตัว ก่อนที่รถแท็กซี่จะกลับไป จากนั้นคนร้ายได้เดินมาหาตนเอง พร้อมกับยกมือไหว้ โดยตนยังได้บอกไปว่า "สวัสดีลูก บุญรักษานะลูก" จากนั้นคนร้าย ก็เดินขึ้นไปบนบ้านที่เกิดเหตุ แล้วนั่งรอที่หน้าระเบียง โดยที่ในบ้านไม่มีใครอยู่ 

 

 

 

ไม่นาน ผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 คน กลับมาจากซื้อของ โดยมีนายสราวุธ หรือเบลล์ บุตรชายของตนเอง พร้อมด้วย ด.ช.ปวีณวัช  หรือ น้องปืน ได้ขึ้นไปบนบ้าน จากนั้นเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ตนเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกระลอกหลายนัด ตนเองอยู่ที่บ้านอีกหลัง ได้ยินเสียงยังบอกกับ นางสาวกรวิกา ว่าดูซิมันเล่นปืนกันอีกแล้ว  ก่อนที่ตนเองจะได้ยินเสียงหลานชาย วิ่งออกมาร้องว่า แม่ครับ แม่ครับ ตนเองจึงให้ลูกสาวไปดู ก็พบว่า บุตรชาย ผู้เสียชีวิต ยืนเต้นอยู่หน้าบ้าน จากนั้นตนเองก็เดินออกมาจากบ้าน ก็พบว่า ลูกสาวตนเองวิ่งออกมามือเปื้อนเลือด ก่อนจะบอกว่า แม่เรียกไอ้นัยทีเร็ว ๆ ตนเองก็เห็นเลือดที่มือ ก็เข้าใจว่า ปืนอาจเกิดลั่น พร้อมทั้งเรียกลูกชายอีกคน ก่อนที่คนร้ายวิ่งออกมา โดยในมือถือปืน และจ่อยิงลูกสาวของตนเองต่อหน้าต่อตา ก่อนที่ลูกสาวจะฟุบลง 

 

 

 

 

 

ตนเองจึงร้องตะโกนเรียกลูกชายอีกคน โดยหลานชายยังร้องเรียกตนเองว่า ยายครับ ยายครับ ก่อนที่คนร้ายจะหันไปยิงหลานอีกครั้ง ตนเองจึงวิ่งล้มลุกคลุกคลาน เข้าไปเรียกลูกชายอีกคน ก่อนที่คนร้ายจะเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน และพยายามเรียกแม่คนร้าย เข้าไปภายในบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้เสียก่อน

 

 

 

 

ทางด้านนายพิชัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 51 ปี เปิดเผยว่า ผู้ตายนับถือตนเองเป็นพี่ชาย ก่อนเกิดเหตุ ตนเองอยู่ที่ กทม. และมีการวิดีโอคอล มาหานายสราวุธ  (ผู้เสียชีวิต)  หรือเบลล์ หลานชายเพื่อยืมเงิน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ตนเองจึงบอกว่าเฮ้ยอะไรวะ โดยมีเสียงลูกของเบลล์ร้อง จากนั้นโทรศัพท์ก็ตกกระแทกพื้น แล้วสายก็ตัดไป สักพัก ตนเองจึงโทรกลับไปอีกครั้ง โดยพบว่า คนร้ายที่ชื่อเล่นไอ้แก่ รับสาย  ตนเอง จึงถามไปว่า ใครรับสาย โดยปลายสายบอกว่า ผมแก่ครับ จากนั้น ตนจึงได้ถามไปว่า แก่ไหน แก่ชายคลองหรือป่าว โดยคนร้ายตอบกลับว่าใช่ และตนยังได้ถามไปอีกว่า เมื่อกี้ใช่เสียงปืนมั้ย คนร้าย ยังบอกว่าใช่ครับ ด้วยความเป็นห่วง จึงถามกลับไปอีกว่า ใครเอาปืนมายิงยิง โดยคนร้ายบอกว่า "เบลล์ยิงเล่นครับ" ก่อนที่ตนเองจะขอสายเบลล์เพื่อจะยืมเงิน แต่คนร้ายได้ตอบกลับมาว่า เบลล์ตายแล้ว เพราะผมเป็นคนยิงเบลล์เอง จากนั้นคนร้ายก็ตัดสายทิ้งไป 

 

 

 

ทั้งนี้ เมื่อคนร้ายตัดทิ้งไป ตนจึงได้โทรกลับเข้ามาอีกครั้ง คนชื่อแก่ ซึ่งเป็นคนร้ายรับสายอีก  ก่อนที่ไอ้แก่จะบอกว่า ตอนนี้ผมยิงหมดทุกคน แล้วครับ รวมทั้งลูกเมียมันด้วย จากนั้นตนเองยังถามด้วยว่า เรื่องอะไร แต่ไอ้แก่ไม่ยอมบอก โดยผมใช้ปืนเบลล์ยิงเบลล์ตาย ส่วนสาเหตุ ตนเองคาดว่า น่ามาจากที่ก่อนหน้านี้ แม่ของไอ้แก่มือปืน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด โดยศาลพิจารณาจำคุก 25 ปี  ซึ่งมือปืนติดใจว่า เพื่อนของเบลล์คนตาย เป็นคนกลั่นแกล้ง นำยาไปใส่ใต้ถุนบ้าน ทำให้แม่ถูกตำรวจจับกุม ดังนั้น จึงได้เข้ามาล้างแค้น

 

 

 

 

 อนันต์ วิจิตรประชา ผู้สื่อข่าว จ.ปทุมธานี