หญิงสันติอโศกเดินยุติความรุนแรงเชียงใหม่-กทม. | คมชัดลึก

(9มี.ค.) สายวันนี้นางฟ้างาย คำอโศก อายุ 63 ปี บ้านเดิมเป็นชาวกรุงเทพหนึ่งในสมาชิกสันติอโศก ตัดสินใจเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เชิงดอยสุเทพฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปตามถนนห้วยแก้ว ต.สุทพฯและถนนสายต่าง ๆในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะผ่านไปตามจ.ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาไปยังจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพมหานคร โดยตลอดระยะเวลาของการเดินได้มีการกำหนดสมาธิในทุกย่างก้าว

 นางฟ้างาย กล่าวว่า ตนเกิดที่ กทม.มาอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นระยะเวลากว่า 27 ปี ตอนนี้เป็นเหมือนคนเชียงใหม่ รักเชียงใหม่และรักคนเชียงใหม่ และมองว่าคนเชียงใหม่นั้นเป็นคนสุภาพอ่อนน้อมมีเมตตาและมีน้ำใจ แต่ที่ต้องออกมาเดินแบบนี้เพราะรู้สึกว่าชาวเชียงใหม่ที่เป็นพลังเงียบแบบตนมีมาก แต่ไม่กล้าออกมาสู้กับคนที่หยาบคายใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นตนจึงเลือกวิธีนี้ในการประกาศสันติอหิงสาและอโหสิกรรม โดยจะเดินไปให้ถึงกรุงเทพฯ

 "การทำแบบนี้เราไม่ได้คิดต่อต้านใคร แต่เราจะขอต่อต้านความรุนแรง เพื่อเป็นการกราบขอโทษคนทั้งประเทศแทนชาวเชียงใหม่บางกลุ่มที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งการนำคนไปปิดล้อมไล่ทำร้ายนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่บ้านในอ.ดอยสะเก็ด การออกมาเคลื่อนไหวด้วยวิธีการรุนแรงหยาบคายจนทำให้ผู้นำประเทศอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ที่พึงมีใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งดิฉันยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวนี้เป็นการทำในนามส่วนตัว ไม่ได้ออกมาทำในนามของกองทัพธรรมแต่อย่างใด "นางฟ้างาย กล่าว

 นางฟ้างาย กล่าวว่า ระหว่างการเดินได้ขอให้ทุกคนที่เป็นพลังเงียบ และคิดแบบเดียวกันกับตนได้ออกมาร่วมกันเดินเพื่อช่วยกันหยุดความรุนแรง เพราะตนทนไม่ไหวเนื่องจากเห็นเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงของคนบางกลุ่มในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2549จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและอยากขอให้หยุดความชั่วร้ายทั้งการโกง การแฉและการโกหกประชาชนทุกรูปแบบหวังให้ประเทศได้กลับมาสู่ความสันติอีกครั้ง

 "ส่วนเรื่องความไม่ปลอดภัยนั้นไม่ห่วงแม้คนรอบตัวจะทัดทานแต่ก็รู้ว่าเราแน่วแน่ ที่สำคัญตนเคยเป็นผู้ป่วยที่รอดตายจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อยากจะใช้ช่วงเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ในการทำความดีทำกุศลด้วยการชวนให้คนมาร่วมหยุดความรุนแรงเลิกก่อวิบากกรรมเสียที

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนออกเดินทางนางฟ้างายได้กราบนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย โดยมีสมาชิกกลุ่มสันติอโศก 5-6 คน มาโอบกอดอวยพรและถือป้ายสันติอหิงสาเดินตามไปส่ง บางรายนำขนมปังกรอบใส่ถุงมาให้พกไปกินกลางทาง ส่วนนางฟ้างายนั้นมีเงินติดเพียง 200 บาทใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอว และมีกระป๋องน้ำสีชมพู 1 ขวดติดตัวในระหว่างเดินทาง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนางฟ้างายนั้น ชื่อเดิมคือ สุกัญญา สุรภักดี เป็นผู้ถวายพื้นที่ในการจัดสร้างพุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ ซึ่งเป็นสถานธรรมของกลุ่มสันติอโศก เดิมเคยประกอบอาชีพเป็นเจ้าของนิตยสารชื่อดังเล่มหนึ่ง ปัจจุบันทำเป็นสมาชิกของกลุ่มสันติอโศก ดำรงชีพด้วยการทำเกษตรกรปลูกผัก มีบุตรสองคนหนึ่งในนั้นเป็นสถาปนิกอยู่ที่กรุงเทพ