จากกรณีที่อดีตพระ "กาโตะ" พระนักเทศน์ชื่อดัง หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว ออกมายอมรับว่า ได้โอนเงินจำนวน 3 แสนบาท ไปให้แก่พระคนกลาง เพื่อนำไปมอบให้น.ส.ตอง สำหรับรักษาอาการป่วยไบโพลาร์ นอกจากนี้ ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่ง เอาไว้สำหรับจ่ายให้สื่อท้องถิ่นเพื่อปิดข่าว กลางรายการโหนกระแสนั้น
(4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีคำสั่งให้ สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช
ตรวจสอบพระครูวินัยธรสุวิจักษณ์ ปญญวโร หรือ "พระอาจารย์ดอน" พระลูกวัดวังตะวันออก ที่ถูกอ้างว่า เป็นคนกลางนำเงิน 3 แสนบาท เคลียร์นักข่าว ยุติการนำเสนอข่าว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากยังไม่มีการรับเงินจำนวนดังกล่าว เงินจำนวน 3 แสนบาท จึงยังอยู่ที่ "พระอาจารย์ดอน" ต่อมาคณะกรรมการวัดเพ็ญญาติ ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ได้ร่วมเซ็นเบิกเงินวัด 6 แสนบาท กับอดีตพระ "กาโตะ" ที่อ้างว่าเพื่อนำมาจ่ายค่าก่อสร้างเสนาสนะใน ก่อนทำการลาสิกขา 2-3 วัน
สำหรับพระครูวินัยธรสุวิจักษณ์ ปญญวโร หรือ "พระอาจารย์ดอน" พระลูกวัดวังตะวันออก มีความกว้างขวาง เป็นลูกศิษย์คนสนิทของพระสมเด็จฯท่านหนึ่ง
โดย "พระอาจารย์ดอน" จะชอบจัดกิจกรรมสาธารณะช่วยเหลือสังคมเป็นประจำ โดยเฉพาะกิจกรรมการสนับสนุนศิลปินพื้นบ้านหนังตะลุง โนราโดยมีการมอบเงินรางวัลจำนวนมาก พร้อมโล่เกียรติยศจากผู้ใหญ่ในส่วนกลาง จนได้รับความเชื่อถือจากศิลปินพื้นบ้านทุกแขนง รวมทั้งคนทั่วไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เปิดเผยพฤติกรรม โดยอ้างว่าเป็น "พระผู้ใหญ่" รายหนึ่ง หลังจากที่มีข่าวอมเงิน 3 แสนบาท ทำให้มีกลุ่มศิลปินโทรศัพท์ร้องเรียนสื่อมวลชนจำนวนหลายราย เกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียกร้องเงินทอง เพื่อวิ่งเต้นให้ได้รับรางวัลต่าง ๆ โดยเฉพาะรางวัลศิลปินแห่งชาติ รายละ 1 แสนบาทขึ้นไป แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณารับรางวัลใหญ่ ๆ
โดยอ้างเหตุผลว่า เนื่องจากรายอื่น ๆ จ่ายเงินสูงกว่า จึงไม่ผ่านการพิจารณา แต่กลับไม่คืนเงินที่เรียกร้องไป หรือหากคืนเงิน ก็คืนเพียงบางส่วนเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้คืนเงินให้ทั้งหมด และอาจจะมีการรวมตัวกันออกมาเปิดโปงพฤติกรรม หรือแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อกองและยักยอกทรัพย์ต่อไป
ในขณะที่มีผู้เสียหายในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้รายหนึ่ง ได้นำเอกสารหมายจับกุม ซึ่งถูกพระผู้ใหญ่นี้ฉ้อโกง เข้าเป็นหลักฐาน และแจ้งว่า ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ยังไม่สามารถจับกุมได้ โดยหมายจับฉบับนี้เลขที่ 258/2561 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2561 ออกโดยศาลแขวงนครศรีธรรมราช ซึ่งระบุผู้ต้องหามีชื่อพระคนกลางรายนี้อยู่อย่างชัดเจน และข้อกล่าวหา คือออกเช็คชำระหนี้ที่มีอยู่จริง และบังคับได้ตามกฎหมาย อันพึงจะใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น หรือที่เรียกกันติดปากว่าเช็คเด้ง
โดยหมายจับฉบับนี้ มีอายุความ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 และหมดอายุความ 15 กันยายน 2565 จากการตรวจสอบข้อมูลตามหมายจับฉบับนี้พบว่า สถานะหมายยังคงมีผลบังคับใช้ และยังมีการระบุว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ในสถานะหลบหนี
ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง