ข่าว

ตำรวจ เร่งแก้ลบ "ประวัติอาชญากรรม" ล้างความผิด คืนชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโจ๊ก" แถลง เร่งแก้ประวัติอาชญากรลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ในสังคม

      พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ในฐานะที่ปรึกษาฯ ร่วมกันแถลง เร่งแก้ประวัติอาชญากรลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขได้ในสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำฐานระบบข้อมูลอาชญากรรม โดยคัดแยก หรือ เปลี่ยนแปลงรายการข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่ถูกบันทึกไวในประวัติและเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานด้านการทะเบียนประวัติอาชญากร ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันดำเนินการอย่างเร่งด่วน 

 

     
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตามระเบียบการปฏิบัติของตำรวจนั้นได้กำหนดให้นำข้อมูลและลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหามาจัดเก็บลงในฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรไว้ก่อน แม้ต่อมาพนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องหรือศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ก็ไม่ได้นำรายชื่อของผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นออกจากทะเบียนประวัติอาชญากรโดยอัตโนมัติแต่ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะต้องมายื่นคำร้องต่อกองทะเบียนประวัติอาชญากรเพื่อคัดชื่อออกเอง ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชน พร้อมระบุ ข้อมูลสถิติ ณ วันที่ 28 เม.ย.จำนวนประวัติที่ยังไม่ได้คัดแยกผลคดีกว่า 12.4 ล้านราย ในจำนวนนี้ พนักงานสอบสวนได้ส่งรายงานผลคดีถึงที่สุดให้กองทะเบียนประวัติอาชญากรทราบแล้ว จำนวน 7.8 ล้านราย คงเหลือที่พนักงานสอบสวนจะต้องรายงานผลคดีถึงที่สุดเพิ่มเติมอีกจำนวน 4.6 ล้านราย โดยได้มอบหมายให้ทุกสถานีตำรวจเร่งสำรวจข้อมูลคดีอาญาถึงที่สุดในความรับผิดชอบ โดยมุ่งเน้นการคัดแยกประวัติอาชญากรรมที่เข้าเกณฑ์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้่ ซึ่งประกอบด้วยกรณีที่พนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง หรือสั่งยุติการดำเนินคดีอาญา ตามระเบียบว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ ,ศาลสั่งยกฟ้อง หรือไม่ประทับรับฟ้อง และกรณีศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง หลังจากที่มีการเคลียร์ประวัติแล้วเสร็จจะมีการแจ้งให้เจ้าตัวรับทราบต่อไป 

    ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กล่าวว่าปัจจุปันยังขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล และอัยการ ทำเกิดความยุ่งยากเพราะประชาชนต้องไปขอคัดชื่อออกเอง  และทะเบียนประวัติควรแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ทะเบียนประวัติผู้ต้องหาและทะเบียนประวัติอาชญากร เนื่องจากมองว่าในกรณีที่ผู้ต้องหาถูกยกฟ้องหรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องแล้ว ควรจะถูกลบประวัติออก เพื่อจะได้มีชีวิตใหม่ในฐานะพลเมืองคนไทย คนหนึ่งสามารถออกไปประกอบอาชีพหรือหางานทำได้ มีโอกาสในการทำมาหากินได้ แต่ปัจจุปันการจะออกจากทะเบียนอาชญากรได้คือกรณีเสียชีวิต หรือจับผิดตัว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเพื่อล้างความผิดให้อาชญากร แต่เห็นว่าการจะเป็นอาชญากรต่อเมื่อมีคำพิพากษาของศาลแล้ว 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ