ข่าว

เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" สร้างความมั่นคงอาหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.เกษตรฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" พืชเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงอาหารของประเทศ

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ สศก. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และ เกษตรกร ส่งเสริมการผลิต "พืชเศรษฐกิจ" เพื่อความมั่นคงทางอาหารโดยเฉพาะ "ถั่วเหลือง"ซึ่งเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีนและน้ำมันและยังเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลายประเภททั้งอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ 


จากสถานการณ์การผลิตและการตลาด "ถั่วเหลือง" ในปี 2565 หรือปีเพาะปลูก 2565/66 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ 24 กุมภาพันธ์ 2565) พบว่า ประเทศไทยมีเนื้อที่เพาะปลูก 85,226 ไร่ แบ่งเป็น "ถั่วเหลือง รุ่น 1"  จำนวน 26,208 ไร่ และ "ถั่วเหลือง รุ่น 2" จำนวน 59,018 ไร่  ผลผลิตรวม 23,007 ตัน  (ถั่วเหลือง รุ่น 1 จำนวน 7,836 ตัน และถั่วเหลือง รุ่น 2 จำนวน 15,171 ตัน)

 

โดยเนื้อที่เพาะปลูกลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 88,010 ไร่ (ลดลงร้อยละ 3.40)และผลผลิตลดลงจากที่มีจำนวน 23,482 ตัน (ลดลงร้อยละ 2.02) เนื่องจาก "ถั่วเหลือง" เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าพืชอื่น เกษตรกรบางส่วนจึงหันไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น 
 

      เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" สร้างความมั่นคงอาหาร

 

ที่ผ่านมาพื้นที่เพาะปลูก "ถั่วเหลือง" และ "ผลผลิตถั่วเหลือง" ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูง ขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ที่ดีต้องใช้แรงงานสูงโดยเฉพาะในการเก็บเกี่ยว ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งหากพิจารณาข้อมูล 5 ปีย้อนหลัง  (ปี 2560 – 2564) ความต้องการใช้ "ถั่วเหลือง"ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.92 ต่อปี โดยปี 2565 คาดว่าความต้องการใช้ "เมล็ดถั่วเหลือง" มีปริมาณ 4.02 ล้านตัน มีสัดส่วนการใช้ผลผลิตภายในประเทศ ร้อยละ 0.58 และยังต้องนำเข้าร้อยละ 99.42 ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งหมด ส่งผลแนวโน้มการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.15 ต่อปี ทั้งนี้ ปี 2565 คาดว่าการนำเข้า "เมล็ดถั่วเหลือง" มีปริมาณ 4.00 ล้านตัน เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ 

เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" สร้างความมั่นคงอาหาร

 

ด้าน "ราคาถั่วเหลือง" ที่เกษตรกรขายได้ (เกรดคละ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ1.96 ต่อปีโดยในปี 2564 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.16 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 16.71 บาท ในปี 2563 ร้อยละ 2.69 และปัจจุบัน ราคา ณ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมีนาคม 2565 กิโลกรัมละ 20.20 บาท 

ส่วน "ราคาถั่วเหลือง" นำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง มีแนวโน้มสูงขึ้น ร้อยละ 3.62 ต่อปี โดยในปี 2564 ราคาถั่วเหลืองนำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.15 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 12.51 บาท ในปี 2563 (สูงขึ้นร้อยละ 45.08)  ซึ่งราคาสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกับราคาในตลาดโลก


จากสถานการณ์ "ถั่วเหลือง" ข้างต้นจะเห็นได้ว่า "ผลผลิตถั่วเหลือง" ในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งแนวโน้มราคายังมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อาจกระทบต่อการนำเข้าพืชอาหารสัตว์

 

ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีนโยบายเร่งส่งเสริมการผลิต "ถั่วเหลือง" ในประเทศ โดยมอบหมายให้ สศก. ร่วมกับทุกภาคส่วนส่งเสริมการผลิตในประเทศ พัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของถั่วเหลือง สศก.จะมีการลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของประเทศ เพื่อพูดคุยกับเกษตรกร "ผู้ปลูกถั่วเหลือง" เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งสหกรณ์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับซื้อเมล็ดถั่วเหลือง และผู้ประกอบการที่ใช้เมล็ดถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบในการหาแนวทางที่จะเพิ่ม "ผลผลิตถั่วเหลือง" ในประเทศร่วมกัน  เลขาธิการ สศก. กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ