หนุ่ม 31 ตาม "ง้อแฟนไม่สำเร็จ" ชักปืน "จ่อยิงดับ" ก่อนปลิดชีพตัวตายตาม

เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (29 เม.ย.2565)  ร.ต.อ.พฤติการณ์ เครือสงค์ รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุ ยิงกันตาย ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช หน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานกว้าง กลางซอยภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว  จอดอยู่ในลักษณะพุ่งชนท้ายรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน 4 กจ 9605 กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นรถของชาวบ้านที่จอดอยู่ข้างทาง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภายในรถเก๋งพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.ลมินันท์ หรือแจง (สงวนนามสกุล)   อายุ 32 ปี นั่งอยู่ที่เบาะคนขับ ในสภาพถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับด้านซ้ายและศีรษะรวม 2 นัด อีกรายนั่งอยู่เบาะข้างกัน ชื่อ นายชุติพงศ์ หรือตาล (สงวนนามสกุล)   อายุ 31 ปี แฟนหนุ่ม ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองที่ขมับขวา 1 นัด ร่างเอียงไปซุกอยู่ที่หน้าตัก น.ส.ลมินันท์ แฟนสาวซึ่งเป็นคนขับ เบื้องต้นพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ของกลางตกอยู่ที่คอนโซลกลางใกล้เบรกมือจำนวน 1 กระบอกจึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

 

 

 

 

จากการสอบสวน น.ส.สกลสุภา (สงวนนามสกุล)  อายุ 26 ปี เพื่อนรุ่นน้องของ น.ส.ลมินันท์ ผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนและ น.ส.ลมินันนท์  ทำงานอยู่ที่บริษัทนำเข้าอะไหล่เครื่องจักร ภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ หลังเลิกงานตนได้ติดรถของน.ส.ลมินันท์ เพื่อกลับ  แต่ปรากฏว่า นายชุติพงศ์ แฟนหนุ่ม ที่ น.ส.ลมินันท์ คบหามา 9 ปี แต่เพิ่งเลิกรากันได้ 1 เดือนมาดักรอขอคืนดีอยู่แล้ว จากนั้น นายชุติพงศ์ ก็เปิดประตูรถไปนั่งฝั่งข้างคนขับ ส่วนตนขึ้นรถไปนั่งอยู่เบาะด้านหลัง

 

เมื่อ น.ส.ลมินันท์ ขับรถออกจากบริษัท มาตามถนนภายในหมู่บ้าน ได้ประมาณ 200 เมตร นายชุติพงศ์ ก็เริ่มพูดคุย โดยกล่าวหาว่า ฝ่ายหญิงมีคนอื่น  ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน จากนั้น นายชุติพงศ์ ก็ชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อยิงใส่ น.ส.ลมินันท์ ทันที 2 นัด ทำให้รถ เสียหลักพุ่งชน รถกระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่ข้างทาง ตอนนั้นตนตกใจมาก จึงรีบเปิดประตูวิ่งหนีลงจากรถย้อนกลับไปทางบริษัท พอเรียกเพื่อน ๆ ที่บริษัทมาดู ก็พบว่าฝ่ายชายใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเพื่อนหนีผิดไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

น.ส.สกลสุภา ยังบอกอีกว่า   "สำหรับสาเหตุที่ทั้งคู่ต้องเลิกรากันนั้นเนื่องจากฝ่ายชายติดการพนันออนไลน์ อย่างหนักที่ผ่านมาเคยเป็นหนี้เป็นสินหลักหมื่นบาท และเนื่องจากเจ้าตัวทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องเสียงไม่สามารถชำระหนี้ได้เองไหว จน น.ส.ลมินันท์ ต้องเดือดร้อนคอยชดใช้หนี้สินให้ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ฝ่ายชายเคยมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย น.ส.ลมินันท์ มาก่อน ทำให้ฝั่งพ่อและแม่ ของ น.ส.ลมินันท์ ไม่ค่อยพอใจ เป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องห่างกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือน กระทั่งมาเกิดเหตุสลดในที่สุด"

 

 

 

 

นายตรัยศักดิ์  อายุ 55 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน บอกว่า ตนได้รับแจ้งมีพนักงานมีเรื่องกัน บอกสีรถทะเบียนรถ ตนจึงตามเข้ามาดูพบว่ารถไปชนรถของลูกบ้าน แล้วมีผู้หญิงวิ่งออกจากรถไปคนหนึ่ง ลูกน้องบอกว่า คนยิงวิ่งหนีไปแล้ว และบอกยังมีคนอยู่ที่รถ ตนจึงไปดูที่รถเห็นยังมีคนอยู่ พอเปิดประตูเข้าไป เห็นผู้ชายอยู่ฝั่งข้างคนขับฟุบนอนที่ตักผู้หญิงที่เป็นคนขับและผู้หญิงก็ล้มนอนทับผู้ชายอีกที และที่กระจกรถมีรอยเลือด ตนก็รู้ว่าไม่มีชีวิตแล้ว จึงบอกว่า ไม่ให้ใครเข้าใกล้และแจ้งตำรวจทันที 

 

 

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ให้แพทย์ดำเนินการผ่าชันสูตร ก่อนติดตามญาติของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าให้ปากคำ เพื่อสรุปสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์  ผู้สื่อข่าว