โรนัลโด ช่วยชีวิต "แมนยู" ยัน "เชลซี" ศึก พรีเมียร์ลีก

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด คู่ระหว่าง "แมนยู" ทีมอันดับ 6 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "เชลซี" ทีมอันดับ 3 ของตาราง  ก่อนพบกันคู่นี้  ปีศาจแดง "แมนฯ ยูไนเต็ด" ลงเล่นเป็นเกมที่ 35 ของฤดูกาล ทำผลงานชนะเพียง 1 นัดจาก 5 นัดหลังสุด สำหรับนัดล่าสุดบุกไป แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 ขณะที่ทีมเยือน สิงโตน้ำเงินคราม "เชลซี" ลงเล่นเป็นเกมที่ 33 ของฤดูกาล มีผลงานชนะ 4 เกมจาก 5 เกมหลังสุด สำหรับเกมล่าสุดเปิดบ้านเฉือน เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-0 

โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ ประกอบด้วย 

แมนยู : ดาบิด เด เกอา (GK), ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, อเล็กซ์ เตลลิส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช, บรูโน่ เฟอร์นันเดส, แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, มาร์คัส แรชฟอร์ด

เชลซี : เอดูอาร์ เม็นดี้ (GK), เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ธิอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่, เมสัน เมาท์, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์

เริ่มการแข่งขัน เพียงนาทีที่ 3 ทีมเยือนมีโอกาสได้ลุ้นก่อนจาก  รีซ เจมส์ ยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษบอลติดเซฟ เด เกอา ถัดมา นาทีที่ 8 เจ้าถิ่นตอบโต้บางจากจังหวะโยนบอลเข้าเขตโทษของ อเล็กซ์ เตลลิส ให้ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ได้ขึ้นโหม่งบอลตรงตัว เม็นดี้  โอกาสมาทาง สิงโตน้ำเงินคราม อีกครั้ง นาทีที่ 30 ติโม แวร์เนอร์ ได้บอลหลุดมาทางขวาก่อนยิงบอลติดเซฟ ดาบิด เด เกอา จบครึ่งแรก แมนยู เสมอ เชลซี 0-0 

กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 60 "เชลซี" ได้ลุ้นจากจังหวะทางฝั่งขวา รีซ เจมส์ โยนบอลเข้ากรอบเขตโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งบอลให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ยิงด้วยซ้ายให้ทีมเยือนบุกนำ 1-0  จากนั้นถัดมานาที่ 62 เจ้าถิ่น "แมนยู" ได้จังหวะตัดบอลได้ เนมานย่า มาติช เปิดบอลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปซัดประตูให้ทีมตีเสมอ 1-1 นาที 79 เชลซี ได้โอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจาก เมสัน เมาท์ ไขว้บอลให้ รีซ เจมส์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลชนเสา เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ เชลซี 1-1 

ทั้งนี้หลังจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานชนะ 15 เสมอ 10 แพ้ 10 เก็บ 55 คะแนน รั้งอันดับ 6 ของตาราง ส่วน  เชลซี ผลงานชนะ 19 เสมอ 9 แพ้ 5 เก็บ 66 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของตาราง

CREDIT PHOTO : Twitter@ChelseaFC , Twitter@ManUtd