ข่าว

นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

27 เม.ย. 2565

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้าร้อยละ 93  ปี 65 แล้วเสร็จ ป้องเมือง –หนุนเศรษฐกิจภาคใต้ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า "โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่" (ระยะที่ 2)  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อป้องกันและลดผลกระทบ "อุทกภัย"

 

หลังเกิด "อุทกภัยครั้งใหญ่" ต่อเนื่อง 3 ครั้งปี 2531, ปี43 ,ปี 53  แต่ละครั้งสร้างความเสียหายต่อ "เศรษฐกิจ" กว่าหมื่นล้านบาทในฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้และทรงพระราชทานชื่อให้ไว้ว่า คลองภูมินาถดำริ เมื่อ 12 ต.ค. 2559 มีความหมายว่าเป็นคลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้ขุดขึ้น เป็นคลองที่แทนความห่วงใยของพระองค์ต่อประชาชน

 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า "โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่" (ระยะที่ 2) เป็นการขุดขยายคลอง ร. 1 ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 92 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 นี้ 

 

เมื่อแล้วเสร็จสามารถ "ระบายน้ำ"ได้อัตรา 1,200 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที เป็นการขยายศักยภาพจากเดิมระบายน้ำได้ 465 ลบ.ม.ต่อวินาที  เมื่อรวมกับการระบายน้ำในคลองอู่ตะเภา 465 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ศักยภาพการระบายน้ำในภาพรวมเมืองหาดใหญ่อยู่ที่ 1,665 ลบ.ม.ต่อวินาที

นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

 

นอกจากนั้นยังได้มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำเพื่อกักเก็บน้ำสำรองสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตรในฤดูแล้ง คลองมีระยะทาง  21.34 กิโลเมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ความจุ 5 ล้านลบ.ม.

 

นอกจากนั้นที่ผ่านมาแม้งานไม่แล้วเสร็จในช่วงปี2561 ยังสามารถช่วยระบายน้ำหลากได้ในอัตรา 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ "หาดใหญ่" รอดจากอุทกภัยและในช่วงเวลานับแต่ปี 53 ยังไม่เกิดอุทกภัยในหาดใหญ่

นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมโครงการ ซึ่งทุกฝ่ายพอใจที่ผลดำเนินการเป็นไปตามแผน รวมถึงเป็นแหล่งน้ำสำรองได้อีกด้วย  ทั้งนี้นายกฯสอบถามถึงศักยภาพระบบ "ระบายน้ำ" ที่ใช้เกณฑ์ปริมาณน้ำปี 53  ซึ่งมีปริมาณน้ำหลากอยู่ที่ 1,200  ลบ.ม.ต่อวินาที  ซึ่งนายกฯฝากย้ำว่าต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าโครงการจะช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร  นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

 

รวมถึงสภาพอากาศแปรปรวนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้แต่โครงการจะช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุดและเมื่อไม่เกิดอุทกภัยจะทำให้รัฐประหยัดงบการช่วยเหลือน้ำท่วมมาเป็นการช่วยในเรื่องการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคหรือโครงสร้างพื้นฐานให้ประชาชนทุกคน เช่นการสร้างคลองหรือระบบกระจายน้ำตามข้อเสนอของประชาชนในพื้นที่ 

 

 

 

นายกฯพอใจ "โครงการบรรเทาอุทกภัยหาดใหญ่" คืบหน้า หนุนเศรษฐกิจภาคใต้

 

พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่าตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นมาเมื่อมีโครงการขยายคลอง ร.1 และการบริหารจัดการน้ำทั้งกรมชลประทานร่วมกับกรมเจ้าท่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยกันทำให้ 12 ปีที่ผ่านมายังไม่เคยมีน้ำท่วมใน "เมืองหาดใหญ่" ซึ่งคนหาดใหญ่และคนในพื้นที่ใกล้เคียงต้องขอบคุณรัฐบาลที่ผลักดันโครงการ รวมถึงการเข้มงวดในการเดินหน้าโครงการให้แล้วเสร็จทั้งนายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่มาติดตามต่อเนื่อง

 

ตัวเมืองหาดใหญ่เกิดอุทกภัยใหญ่ 3 ครั้งในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ทุกรอบ 10 ปี โดยครั้งใหญ่ปี 2531 มีปริมาณน้ำท่า 839 ลบ.ม.ต่อวินาทีเกิดอุทกภัยสร้างความเสียหาย 4,000 ล้านบาท ต่อมาปี 43 มีปริมาณน้ำท่า 970 ลบ.ม.ต่อวินาทีสร้างความเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาท และปี 53 มีปริมาณน้ำท่าผ่านเมืองหาดใหญ่ 1,623 ลบ.ม.ต่อวินาทีท่วมเพียง 2   วันแต่เสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท 

 

สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) เป็นการปรับปรุงคลองภูมินาถดำริ หรือคลองระบายน้ำ ร.1 ความยาว 21.34 กิโลเมตร รวมทั้งการก่อสร้างประตูระบายน้ำ(ปตร.)หน้าควน 2 และปตร.บางหยี 2 พร้อมสถานีสูบน้ำบางหยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้เพิ่มขึ้น  ทำให้ระบายน้ำเพิ่มจาก  อัตรา 465 ลบ.ม./วินาที  เป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที และเมื่อรวมกับคลองอู่ตะเภาที่ระบายได้ในอัตรา 465 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีศักยภาพในการระบายน้ำได้สูงสุดรวมกัน1,665 ลบ.ม./วินาที 

 

ส่วนการก่อสร้างประตูระบายน้ำหน้าควน 2 ซึ่งอยู่บริเวณปากคลองระบายน้ำ ร.1 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถใช้บริหารจัดการน้ำด้วยการเปิด-ปิดบานระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่คลองระบายน้ำ ร.1 ได้แล้ว ส่วนประตูระบายน้ำบางหยี 2 พร้อมสถานีสูบน้ำ ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จเช่นกัน หากงานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากได้ 1,200 ลบ.ม./วินาที