ข่าว

สามารถ ลั่นถ้าใครมีคลิป "บิ๊กป้อม" ไปพบ "ทักษิณ" จริงก็คงหลุดออกมาแล้ว​

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สามารถ ลั่นถ้าใครมีคลิป "บิ๊กป้อม" ไปพบ "ทักษิณ" จริงก็คงหลุดออกมาแล้ว​ หยิบยกม้าเฉียว​ หันซุย​ หลงกล​ โจโฉสุดท้าย​ต้องเสียเมือง​ ย้ำ บิ๊ก​ตู่บิ๊กป้อมไม่หลงกลอุบายตื้นๆแบบนี้

    


นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความใน Facebook ว่า เพื่อที่จะให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องและชัดเจน เพราะวันนี้สังคมกำลังสับสนมากกับกระแสข่าวว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปประเทศไปพบอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลายคดีของประเทศไทย และท่านพลเอกประวิตร ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวแล้วว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดก็ตาม

นายสามารถ กล่าวว่า ตนออกมาพูดเพื่ออยากจะยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าว ไม่มีเหตุผลอะไรที่พลเอกประวิตร ต้องไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะรู้ว่าเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่ท่านจะต้องไปพบกับนายทักษิณซึ่งเป็นนักโทษหรือผู้ต้องหาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว ที่สำคัญ พลเอกประวิตร ยังมีน้องชายที่รักเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทยในปัจจุบันด้วย

   

ยุคนี้เป็นโลกไร้พรมแดน ถ้าพลเอกประวิตรมีการพบกับนายทักษิณจริง ก็ต้องภาพหรือคลิปหลุดออกมาแล้ว    เหมือนหลายครั้งที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยไปพบนายทักษิณ ก็จะมีภาพหลุดออกมาเป็นประจำ


 ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ประกาศแล้วว่าไม่เจอทักษิณ​ตั้งแต่ปี2548  และไม่มีเหตุผล​ต้องเจอนักโทษ​ ผมจึงอยากบอกว่าถ้านายทักษิณจะมาเจอท่าน ให้มาเจอที่เมืองไทยเท่านั้น และถ้าจะมอบตัวท่านก็ยินดีจะประสานงานให้ในฐานะที่ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านความมั่นคงของประเทศไทย ตนคิดว่าเรื่องนี้คนที่ปล่อยกระแสข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้งเวทีผู้ว่าฯและสก.กทม. รวมทั้งในการเลือกตั้งระดับชาติ

   

ผมคิดว่าการมาใส่ร้ายป้ายสีพลเอกประวิตรซึ่งเป็นบุคคลที่ผมเคารพ  และมีการยุแยงให้พลเอกประวิตรกับพลเอกประยุทธทะเลาะกัน  ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมยอมไม่ได้  เพราะเป็นการทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ  นอกจากนี้ยังสร้างความแตกแยก ระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพลเอกประวิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และทำให้เกิดความสับสนในสังคมและประเทศไทยเป็นอย่างมาก" 


ผมขอยกตัวอย่างในประวัติศาสตร์จีนสมัย3ก๊ก ม้าเฉียว เป็นนักรบที่เก่ง ไล่โจโฉจนต้องขี่ม้าหนี ถอดหมวกตัดเครา ถอดเสื้อคลุมหนี  แต่ม้าเฉียวมีกุนซือที่เปรียบเสมือนมันสมอง ชื่อหันซุย ซึ่งหันซุยเป็นคนวางการรบให้  ทั้งยังเป็นพันธมิตรตั้งแต่ม้าเท้งผู้เป็นพ่อของม้าเฉียวนั่นเอง 
  ดังนั้นเมื่อม้าเฉียวกับหันซุยร่วมมือกัน จึงเป็นคู่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถต้านทานกับโจโฉได้ 
แต่หากแยกทั้งคู่ออกจากกันล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น

โจโฉใช้กลอุบายง่ายๆด้วยการเชิญชวนให้หันซุยออกมาเจรจากันในฐานะเพื่อนเก่าเพราะเคยคบหากันมาก่อนที่กลางสนามรบ โดยโจโฉก็เพียงแค่ไต่ถามเรื่องโน่นนี้ไปเรื่อยเปื่อยแล้วจึงกลับค่ายพัก เมื่อม้าเฉียวสอบถามว่าคุยอะไรกันหันซุยก็ว่าไปตามจริง แต่ม้าเฉียวก็ไม่เชื่อว่าโจโฉจะเพียงแค่นัดหันซุยไปคุยอะไรไร้สาระแบบนั้น แถมโจโฉยังตอกย้ำแผนการของตนอีกด้วยการส่งจดหมายที่มีข้อความไม่ชัดเจนราวกับเป็นรหัสลับอะไรบางอย่างมาให้ที่ค่ายของหันซุย


ม้าเฉียวนั้นระแวงหันซุยจนขีดสุดและในระหว่างที่กำลังทะเลาะกับหันซุยนั้น เขาก็ฟันแขนหันซุยจนขาด ทำให้ทัพเสเหลียงแตกกันเอง และตัวหันซุยจึงตัดสินใจสวามิภักดิ์ต่อโจโฉจริงๆ​ สุดท้ายม้าเฉียวต้องเสียเมือง​ เพราะหลงกลของโจโฉนั้นเอง


แปลว่ากลอุบาย​ ปล่อยข่าวลวงหลอกมีมาแต่โบราณนับพันๆๆปีแล้ว  ดังนั้นผมจึงขออกมายืนยันอีกเสียงว่า​ แผนจะทำลายบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่นั้นยาก​ เพราะทั้งสองคนนั้นรู้ทันกลอุบายตื้นๆแบบนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ