ข่าว

"นายกฯ" ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมแก้ไข "โควิด"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสนอเปิดประเทศเต็มที่ 1 พ.ค.นี้ "นายกฯ"ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมแก้ไขโควิด ที่ปรึกษา ศบค. ยันต้องเร่งฟื้นเศรษกิจ หลังตัวเลข"โควิด" ต่ำกว่าคาดการณ์

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ศบค.วันนี้ ว่าที่ประชุมเห็นชอบหลายมาตราการ เช่นการเปิดโรงเรียนออนไซด์เดือนหน้า ตามข้อกำหนด
การฉีดวัคซีนเพิ่มเติม และเร่งรัดการฉีดวัคซีนในเด็ก ในเรื่องของการท่องเที่ยวต้องพัฒนา ในลักษณะที่เป็นการท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่ปลอด ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยปลดล็อกพื้นที่สีแดงหมดแล้ว และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือ แก้สถานการณ์โควิด อย่างดี

 

"นายกฯ" ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมแก้ไข "โควิด"

 

ก่อนการประชุมศบค.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค.ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ โดยเริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม หากฉีดวัคซีน 3 เข็มจะให้ตรวจ ATK 1 ครั้ง ภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่ฉีดไม่ครบ 3 เข็ม ให้กักตัว 5 วัน และสังเกตตัวเองต่ออีก 5 วัน ส่วนกรณีที่ไม่ฉีดวัคซีนเลย ให้กักตัว 14 วัน นอกจากนี้จะเสนอที่ประชุมศบค. พิจารณาลด หรือเลิก วงเงินประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย

สถานการณ์โควิดอยู่ในช่วงขาลง ก็ต้องมานึกถึงเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจของเราตอนนี้ฟื้นช้ากว่าประเทศอื่น และถ้าเราช้าไปอีก 1-2 เดือน ถือว่าเสียโอกาส แม้ที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก แต่ตอนนี้ช่วงที่ไม่ได้มีผู้ป่วยมาก คนไทยก็รู้จักระมัดระวังตัวเอง คิดว่าทุกอย่างต้องผ่อนคลาย เพราะรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้คาดว่ายอดผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่ปรากฏว่าประชาชนให้ความร่วมมือดีมาก ตอนนี้จึงต่ำจากที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการตรวจ RT-PCR อยู่ที่ 2.1 หมื่นราย หากรวมกับการตรวจเชื้อแบบ ATK จะอยู่ที่ 4-5 หมื่นราย เราเคยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้หลายเท่า แต่ปรากฏว่าไม่ขึ้น รวมทั้งเรามีคนไข้อยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศเพียง 1.9 แสนราย แสดงว่าอาการของคนไข้ไม่ได้หนัก คนไข้ที่ต้องใช้เตียงผู้ป่วยระดับสีเหลืองและระดับสีแดง รวมกันใช้ไปเพียง 25% ของเตียงทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก สรุปว่า คนไข้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ได้มากขึ้น และลดลงด้วย ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์หลังจากสงกรานต์ จึงคิดว่าแนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ