ข่าว

"ทนายตั้ม" หวั่น ตร.ยศ พล.ต.ต.แทรกแซงคดี ปริญญ์ ในข้อหากระทำอนาจาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทนายตั้ม" หวั่น ตร.ยศ พล.ต.ต.แทรกแซงคดีปริญญ์ นักการเมืองดัง ร้องให้ตรวจสอบมือถือ ว่ามีการข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหายหรือไม่

จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำหญิงสาวเกือบ 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ "ปริญญ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ ในข้อหากระทำอนาจาร

 

 

"ทนายตั้ม" หวั่น ตร.ยศ พล.ต.ต.แทรกแซงคดี ปริญญ์  ในข้อหากระทำอนาจาร

 

ล่าสุดวันนี้ (22 เมษายน 2565) เมื่อเวลา 09.00 น. นายษิทรา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีตำรวจยศ พล.ต.ต. พยายามแทรกแซงคดีที่ผู้เสียหายอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ โดยมี พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.ฝอ.5 บช.น. เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว

 

นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้ตนมายื่นหนังสือถึง ผบช.น. เนื่องจากทราบว่ามี พล.ต.ต.นายหนึ่ง แทรกแซงและชักจูง ผู้เสียหาย โดยขอให้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของแม่ผู้เสียหาย ในเรื่องการติดต่อกับ พล.ต.ต. นายนี้ และตรวจสอบว่า พล.ต.ต.นายนี้มีการติดต่อกับบุคคลในพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาหรือไม่ รวมถึงต้องการให้ตำรวจตรวจสอบว่ามีการข่มขู่บังคับหรือจูงใจพยานหรือไม่ เบื้องต้น ทราบว่า พล.ต.ต. นายนี้เกษียณราชการไปแล้ว และเคยดำรงตำแหน่งผู้การจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก

นายษิทรา เปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา พบว่าทางครอบครัวของเหยื่อได้ปรึกษากับ พล.ต.ต.นายนี้มาตลอด จนสุดท้ายทางผู้เสียหายก็ไม่ทำสิ่งที่ควรทำ ซึ่งครอบครัวของเหยื่อแจ้งว่า พล.ต.ต.คนนี้เป็นลุง แต่คาดว่าคงไม่ได้เป็นเครือญาติกัน โดยผู้เสียหายเริ่มไม่ให้ความตั้งแต่วันที่ตนแจ้งให้ไปที่ศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัว แต่ยังไม่ถึงขั้นกลับคำให้การ ซึ่งต่อไปในนาคตก็ไม่แน่นอน จึงต้องป้องกันไว้ก่อน คาดว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผู้เสียหายก็คงได้ประสานกับ พล.ต.ต. นายนี้แล้ว  ตนเองกังวลว่าเมื่อคดีไปถึงชั้นอัยการ ที่อาจจะต้องมีการสอบปากคำเพื่อเติม ผู้เสียหายอาจให้การที่ไม่เป็นประโยชน์กับรูปคดี

 

"ทนายตั้ม" หวั่น ตร.ยศ พล.ต.ต.แทรกแซงคดี ปริญญ์  ในข้อหากระทำอนาจาร

 

 

นายษิทรา ยืนยันว่า เหยื่อทั้ง 15 ราย ที่มีการดำเนินคดีและให้การในฐานะพยานนั้น ยังไม่มีสิ่งไม่ชอบมาพากล แต่ต้องระวังไว้ เพราะฝ่ายผู้ต้องหาตั้งเริ่มตั้งหลักได้แล้ว หลังจากนี้ก็คงต้องระวังให้มากขึ้น ส่วนการเก็บหลักฐานในคดีที่ผู้เสียหายอายุ 18 นั้น ตำรวจสามารถเก็บหลักฐานได้ครบถ้วน ทั้งคำให้การผู้เสียหาย คำให้การของพยาน รวมถึงพยานหลักฐาน ทั้งนี้ตนไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับ เพราะตนป้องกันโดยไม่ระบุชื่อในการให้สัมภาษณ์มาตลอด และหยุดไม่ได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องภัยสังคม หากไม่หยุดบุคคลนี้ ก็คงมีเหยื่อออกมาเรื่อยๆ โดยขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดประสานติดต่อขอข้อมูลตน

นายษิทรา ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มีการพูดคุยเหยื่ออีกราย ที่ถูกข่มขืนที่ประเทศอังกฤษแล้ว และได้ประสานกับบุคคลที่สามารถดำเนินการที่อังกฤษ หากเสื้อผ้าที่เหยื่อสวมใส่ในวันเกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดยังคงมีอยู่ครบถ้วน ก็พร้อมให้ศาลดำเนินการต่อ โดยเหตุเกิดเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ขณะที่เหยื่อเรียนปริญญาโท ผู้ก่อเหตุทำงานที่ธนาคารหนึ่ง ได้ล่อลวงในเรื่องการงานให้เหยื่อมาที่อพาร์ทเม้นท์ส่วนตัว จากนั้นจึงทำการข่มขืน ซึ่งเหยื่อได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยมีหญิงไทยคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับทางสถานทูต มาแจ้งเหยื่อว่าไม่ควรดำเนินคดี หลังเกิดเหตุเหยื่อไม่ได้กลับมาเมืองไทยแต่อย่างใด และเหยื่อยืนยันว่าคดียังไม่มีการตัดสิน พร้อมดำเนินการต่อ ส่วนเหยื่อรายอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่มีการเข้ามาแจ้งความ แต่ต้องคัดกรองให้ดี เพราะกลัวว่าจะมีบุคคลแอบอ้างเข้ามาทำให้รูปคดีเสียได้

 

นายษิทรา กล่าวอีกว่า การทำงานของ ผบช.น. และ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. รวมถึงการทำงานของตำรวจ สน.ลุมพินี ที่สอบปากคำทั้งผู้เสียหายและพยาน ก็สามารถเก็บได้ละเอียด คิดว่าตำรวจทำงานด้วยความรวดเร็ว ยังเชื่อมั่นในตำรวจ แต่ตนกลัวเรื่องของ พล.ต.ต. นายดังกล่าว ยืนยันว่าการกระทำอนาจารหน้าธารกำนัล เป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ ส่วนการแสดงออกของ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ไม่มีผลต่อเนื้อหาคดีแต่อย่างใด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ