สไกร ย้ำ 17 สาขาภาคเหนือ ต้องใช้ "งบกลาง" ถูกต้อง เกษตรกรได้ประโยชน์สูงสุด

วันที่ 22 เม.ย. 65 ที่ จ.เชียงใหม่ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมด้วยนายมนัส  วงษ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ของเกษตรกร นายวิญญู สะตะ ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายประเทือง นรินทรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักบริหาร และนางวรรณี  มหานีรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ ได้เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมซักซ้อมความเข้าใจการใช้ "งบกลางประจำปี 2565"จำนวน 2,000 ล้านบาทให้แก่หัวหน้าสำนักงาน และพนักงานสาขา
จังหวัด 17  จังหวัดภาคเหนือ 

โดยเลขาธิการสำนักงานกองทุนฯ ได้ให้นโยบายต่อผู้เข้าร่วมประชุมว่า "งบกลาง" จำนวน 2,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นงบเพื่อการจัดการหนี้ 1,500 ล้านบาท เพื่อการฟื้นฟูอาชีพ 270 ล้านบาท และเพื่อการบริหารสำนักงาน 230 ล้านบาท โดยเฉพาะงบด้านการจัดการหนี้ และการฟื้นฟูอาชีพ ที่ต้องเร่งดำเนินการใช้จ่าย เพื่อประโยชน์ต่อ "เกษตรกร" สมาชิก

"งบกลางปี 65" นี้ เป้าหมายอยู่ที่เกษตรกรสมาชิกเพื่อนำไปจัดการหนี้ รักษาที่ดินให้แก่เกษตรกร 1,500 ลบ. และสนับสนุนการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร 270 ลบ. ดังนั้น กองทุนฯ ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใต้ความถูกต้องตามเป้าหมายและเป็นไปตามกม. ระเบียบ ข้อเสนอที่ขอใช้ "งบกลาง"

นายสไกร ยังกล่าวอีกว่า หลายฝ่ายได้เป็นห่วงว่า กองทุนฯ จะใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง และไม่แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 65 หรือก่อน 30 ก.ย. 65 นั้น ตนในฐานะผู้กำกับดูแลการบริหารสำนักงาน ขอยืนยันว่า การใช้งบประมาณถูกต้องตามกฎหมาย และตามข้อเสนอที่ขอใช้ "งบกลาง" และต้องแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณ 65  ซึ่งตนและผู้บริหารสำนักงาน ได้ลงพื้นที่ประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับสาขาจังหวัดทุกจังหวัดทั้ง 4 ภาค ซึ่งเวทีภาคเหนือครั้งนี้เป็นเวทีที่ 2 ต่อจากภาคใต้และเวทีต่อไปจะจัดที่ภาคอีสานและภาคกลาง เพื่อให้การใช้จ่าย "งบกลาง" ถูกต้องและแล้วเสร็จตามกำหนด