ตร.วอน 4 ชีวิต "หายตัวปริศนา" ติดต่อกลับ ห่วงลูกคนโต ผจญกระแสสังคมเพียงลำพัง

21 เม.ย.2565  จากกรณีการหายตัวปริศนา นานนับ 10 วัน  ของนายนิรุตน์  อายุ 41 ปี น.ส.นฤมล อายุ 41 ปี ภรรยา และ ลูกอีกคน วัย 12 และ 7 ขวบ  พร้อมรถยนต์กระบะ  โดยเบาะแสสุดท้ายคือ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.65 ที่น้องอุ้ย ลูกสาวคนโต วัย 19 ปี ของนายนิรุตน์  ซึ่งเดินทางกลับมาจากจ.เชียงใหม่ กลับบ้านที่จ.สุโขทัย ได้ติดต่อส่งข้อความถึงพ่อ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ ต่อมามีเบาะแสว่ารถกระบะ ถูกขายต่อที่เต็นท์รถมือสอง ในจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้ติดตามสัญญาณโทรศัพท์ ของทั้ง 4 คน จนทราบว่าถูกตัดขาดยกเลิกไปในพื้นที่ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด พ.ต.อ.ชัชวาล เมืองดี  ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดสืบเข้าไปหาความจริงจากนายล้วน  อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายนิรุตน์โดยนายล้วน ยืนยันว่ายังไม่เจอลูกชายและครอบครัวเลย ไม่มีการติดต่อใด ๆทั้งสิ้น ชุดสืบจึงได้พาตัวนายล้วนและน้องอุ้ย ลูกสาวคนโต ของนายนิรุตน์  เดินทางไปที่บ้านพักอีกแห่งที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม  เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่าเป็นปกติ ไม่มีการเคลื่อนย้ายข้าวของในลักษณะเตรียมการย้ายที่อยู่แต่อย่างใด 

        
ส่วน "น้องอุ้ย"  นั้นยังคงอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง พ.ต.อ.ชัชวาล  มีความเป็นห่วงความรู้สึกของ น้องอุ้ย เนื่องจาก น้อง 2 คนยังอยู่กับพ่อแม่ แต่น้องอุ้ยต้องมาเผชิญกับกระแสสังคมแบบนี้น่าเป็นห่วงว่าจิตใจน้องจะรับสภาพไม่ไหว จึงอยากให้นายนิรุตน์  และน.ส.นฤมล  พ่อและแม่ติดต่อกลับมาทางใดก็ได้ 

 

 

หากการ หายตัวปริศนา ตามที่มีการคาดการณ์ว่าสาเหตุเกิดการเป็นหนี้นั้น จะได้หาคนกลางมาไกล่เกลี่ยพูดคุย แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเจ้าหนี้มาแสดงตน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประสานงานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะการหายตัวปริศนา ไปไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย ทางเจ้าหน้าที่พร้อมให้การช่วยเหลือตลอดเวลา ขอให้บอกที่อยู่แน่ชัด และจะรับมาให้ความช่วยเหลือ

 

 

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.สายัณห์  จันทร์แจ่มกระจ่าง ผกก.สภบ้านไร่ อ.ศรีสำโรง เปิดเผยว่า ล่าสุดจากการสืบสวนพบว่ารถยนต์ โตโยต้าสีเทาหมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย ไปโพสต์ขายที่เต็นท์รถที่จ.อุดรธานี และมีการขายต่อไปหลายทอด สรุปได้ความว่าเมื่อวันที่ 7 เมษายน น.ส.นฤมล  ผู้เป็นภรรยานำรถไปขายให้กับคนหนึ่งที่ปั๊ม ปตท.อำเภอพรมพิราม  จ.พิษณุโลก จากนั้นผู้ซื้อรถคนที่ 1 ได้นำรถไปขายต่อ ให้ผู้ซื้อรายที่ 2 ที่ จ.ลพบุรี ส่งต่อไปผู้ซื้อที่ 3 ที่กรุงเทพ และหลังสุดที่เต็นท์รถจ.อุดรธานี

 

อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่า น.ส.นฤมล  เป็นคนนำรถไปขายด้วยตนเอง และทราบว่ามีการใช้รถอีกคันมารับหลังจากขายรถคันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทำให้เชื่อว่า ทั้งสองพ่อแม่นั้นไม่น่าจะมีการเกิดประทุษร้าย หรือการถูกนำรถไป  เพราะเป็นการนำรถมาขายเองซึ่งยืนยันได้จากภาพถ่ายของเต็นท์รถ

 

 

 

ส่วนสาเหตุของการติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้นั้นยังไม่ยืนยันสาเหตุ เพียงทราบว่า ก่อนหน้านี้ สองสามีภรรยามีการระดมทุนจากชาวบ้านจำนวนมาก มาเพื่อมาลงทุนซึ่งยังระบุกิจการไม่ได้ จึงอาจเป็นสาเหตุให้ไม่อยากติดต่อพูดคุยกับใครรวมถึงเจ้าหนี้ ซึ่งหลังสุด "น้องอุ้ย" ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตติดต่อพ่อได้หลังสุด ช่วงเย็นของวันที่ 10 เม.ย   และสัญญาณขาดหายไปที่ลาดกระบังในวันเดียวกัน ซึ่งทิศทางในการติดตามผู้สูญหายนั้นมีหลายวิธี ทั้งการตรวจเช็คการทำธุรกรรม ยานพาหนะ ญาติพี่น้อง โดยเจ้าหน้าที่จะใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อหาเบาะแสในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

 

 

 

ศรีสุดา ชัยวงศ์ศรีอรุณ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุโขทัย