"มาดามอ้อ" ช่วงเวลาดีที่ "สวาทแคท"...เส้นทางชีวิต(ฟุตบอล)ต่อจากนี้

ฤดูกาล 2021/22  ของฟุตบอลไทยลีก 1    สำหรับ นครราชสีมามาสด้า เอฟซี หรือ "สวาทแคท" สิ่งที่เป็นไฮไลท์  คือ การเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะผู้บริหารสโมสรของ  นฬาพร ไชยนิน  " มาดามอ้อ" ด้วยบทบาทรองประธานสโมสรฝ่ายหารายได้ และสิทธิประโยชน์  และผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร  จากการแต่งตั้งของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสร  

ทั้งนี้การเปิดฤดูกาลของฟุตบอลอาชีพไทยลีก  เริ่มแข่งตั้งแต่ 14   สิงหาคม  2564 เป็นต้นมา  และจบฤดูกาลในในเดือนพฤษภาคม 2565   แต่ก่อนที่จะสิ้นสุดฤดูกาล  ได้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น  กับ "สวาทแคท"  เมื่อ" มาดามอ้อ" ได้ลาออกจากตำแหน่งบริหารของสโมสร ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา   ปิดฉากการทำงานร่วมปีเศษ   ให้สิ้นสุดลง  " คมชัดลึก"  สัมภาษณ์พิเศษ เปิดใจ"มาดามอ้อ" นฬาพร ไชยนิน ต่อการตัดสินใจวางมือ ในการทำงานให้กับ  นครราชสีมามาสด้า เอฟซี " สวาทแคท" 

"ย้อนกลับไป นาทีแรกที่ร่วมงานกับนครราชสีมาสด้าเอฟซี  บรรยากาศในวันนั้น  จน มาถึงวันที่ยื่นหนังสือลาออก มีนาคม 2565  ร่วมปีเศษ ความทรงจำจากวันแรก  จนถึงวันสุดท้าย ที่ทำงานกับสโมสรเป็นอย่างไร"

"ประทับใจในทีม และ รู้สึกขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่ให้เราเข้ามาทำหน้าที่บริหารงานด้านกีฬา   
เมื่อเราเดินเข้ามาทำงานด้านกีฬา เราต้องเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาทีมให้มีจุดแข็งในทุกด้าน โดย ตำแหน่งรองประธาน สโมสร ควบกับผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร มีหน้าที่หลักที่ได้รับมอบคือ ดูแลรับผิดชอบ เรื่องการหารายได้ หาสปอนเชอร์ ดูแลผู้สนับสนุน ทั้งรายเดิม และหาสปอนเชอร์รายใหม่ มาเพิ่ม ให้ตามเป้า  ตลอดจน ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมไปถึงภาพลักษณ์ องค์กร การทำการตลาด การทำ PR ประชาสัมพันธ์  และเชื่อมต่อแฟนบอล ทำกิจกรรม การกุศล ช่วยเหลือสังคม ทำ CSR ( กิจกรรมเพื่อสังคม) ร่วมกับแฟนบอล เกือบทุกกลุ่ม ถึงแม้จะไม่ครบปี แต่ก็ได้ ร่วม ทำอะไรด้วยกัน ค่อนข้างเยอะ  ได้เข้าถึง ผูกพัน มีความสัมพันธ์ที่ดี ตลอดจนได้มิตรภาพที่ดี มาจนทุกวันนี้ ก็ยังตามเชียร์ ทีมสวาทแคท และเป็นแฟนคลับสวาทแคทอยู่"

"ตลอดเวลาของการทำงานในภารกิจ เราพยายามเข้าถึงทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น โค้ช,สตาฟโค้ช นักกีฬา   พนักงานสโมสร แฟนบอล  แม่บ้าน เด็กเก็บบอล ทีมมีเดีย ทุกคนมีสปิริตใน บทบาท ของตัวเอง  ได้เห็น ทุกคนในสโมสร มองตา ก็รู้ว่าเป็นนักรบ เห็น ความทุ่มเท ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก ต้องยกความดีความชอบให้ กับ โค้ช ,สตาฟโค้ช และ นักฟุตบอล  ที่เป็นเหมือนนักรบ และเป็นฮีโร่ ของทีม  รับผิดชอบ ทำหน้าที่ของตัวเอง โดยมีเป้าหมายเดียวกัน และการทำงานเป็น ทีมเวิร์ค เพื่อให้ได้ชัยชนะ Fight to Win ตามคอนเซปต์สโมสร "

"แต่การบริหารงานด้านกีฬา มันมีองค์ประกอบหลายส่วน  ด้านคน ด้านสื่อ ด้านการตลาด  ด้านการบริหาร กับความคิดต่าง เลยมีเหตุผลส่วนตัว   จึงคิดว่า เลือกที่จะออกจากตรงนั้น  เพราะ การบริหารงานที่มีบริบทต่างกัน ต่างวาระ ประกอบกับเคยเรียนแจ้ง ท่านประธานที่ปรึกษา ( สุวัจน์ ลิปตพัลลภ)  แล้ว ว่าอาจจะมาช่วยรับตำแหน่งทำงานให้ แค่ฤดูกาลเดียว "

 

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น อะไรเป็นแรงจูงให้"มาดามอ้อ" เข้ามาสู่งานทางด้านฟุตบอล 

"เป็นคนชอบกีฬา,เป็นนักกีฬา  และเป็นกองเชียร์ที่ติดตามกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว ตั้งแต่จำความได้ เคยนั่งเชียร์บอลพรีเมียร์ลีกตลอดจน บอลไทย ตั้งแต่เด็ก ๆ อยู่ หน้าจอทีวี บางทีมีแข่งแมทช์ใหญ่ ๆ ก็จะไป เชียร์ถึงขอบสนาม    กีฬาฟุตบอลทำให้เราเป็นคนที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารและการบริหารคน การวางแผน การใช้กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ Passion ,Mind set หลักการ บริหาร งานสำคัญของอ้อ สำหรับฟุตบอลคือ คำว่า  Football Entertainment +Marketing &fashion ที่สามารถ ทำงานด้วยกันได้ อย่างต่างประเทศ ก็ใช้กีฬาฟุตบอล เป็น กีฬาประจำชาติ สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียง ตลอดจนเป็นฟุตบอลอาชีพ สู่ระดับ สากล  และที่สำคัญ คือการอิน และการหลงไหล คลั่งไคล้ รักในกีฬาฟุตบอล จึงจะทำให้อ้อ เข้าถึง เข้าใจ ในศาสตร์ ของทีมฟุตบอล "
 
ก่อนเข้ามารับหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายหารายได้และสิทธิประโยชน์ ควบคู่กับผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร จินตนาการไว้อย่างไร กับงานด้านฟุตบอล บทบาทและภารกิจ

"จินตนาการว่ามันท้าทายและสนุก   มีความรู้ และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เราไม่เข้าใจ  เช่น แฟนบอล ปกติเราทำงานด้านสิทธิประโยชน์ คือ เราสื่อสารและตอบแทนลูกค้า ด้วยช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ที่สร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้า  แต่แฟนบอล เราต้องเข้าใจเขา ทำกิจกรรมร่วมกับเขา ถึงจะเข้าถึงสิ่งที่เรารักเราและเชียร์ทีมเรา อ้อ ใช้วิธีคือ เปิดใจ เดินเข้าหา แฟนบอล เกือบจะครบทุกกลุ่ม ใช้ใจคุยกับทุกคน บวกกับความจริงใจ เข้าไปเพื่อ เป็นเพื่อน เป็นครอบครัว และสนับสนุน (Support)  อะไรที่ร้องขอมา ช่วยอะไรได้ ก็จะทำทันทีด้วยงบประมาณส่วนตัว ทำอย่างสม่ำเสมอ ลงไปพบปะ พูดคุย ทั่งเจอหน้า และในสื่อสังคมออนไลน์"

 "ถ้ามีเวลา จะตอบคำถาม สื่อสารกันตลอด ด้วยตัวเอง อ้อเลย มั่นใจ ว่า กลุ่มแฟนบอล ทุกคน ก็สัมผัสและ  มองเห็นสิ่งที่เราทำ  ว่า เราเข้ามาทำอะไรบ้าง ตรงนี้ อ้อ ก็มีความสุข และดีใจ ที่ได้ มิตรภาพที่ดี ๆ จาก แฟนคลับสวาทแคท น่ารักและต้อนรับอบอุ่น และดีกับอ้อ มาก  ขอกราบขอบพระคุณแฟนบอล สวาทแคททุกท่าน   เรา ยังเป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้คะ เราต้องทำงานแข่งขันกับเวลา  คน  และสื่อสารมันออกมาให้ดี"

งานในตำแหน่งรองประธานสโมสร ฝ่ายสิทธิประโยชน์ ,  ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภาพลักษณ์  หรือสื่อสารองค์กร  ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องใหม่กับวัฒนธรรมฟุตบอลของไทย  ภารกิจต้องทำอะไรบ้าง
 

"หลัก ๆ คือ หารายได้ให้กับสโมสร และ ดูแลสิทธิประโยชน์ ให้กับสปอนเซอร์ ,การตลาด    
ดูแลสื่อต่างๆ ของ สโมสร และ สื่อสารความเป็นตัวตนของสวาทแคท  ไม่ว่าจะเป็น  ภาพลักษณ์ของ นักกีฬา  การทำงานร่วมกับแฟนคลับ เพื่อส่งเสริมการเชียร์  และส่งเสริมกิจกรรมสื่อมวลชน  สวาทแคท เป็นอีกทีมที่ ได้พื้นที่สื่อตลอด  เข้าถึงสื่อ  ในช่วงเวลา ที่ อ้อ อยู่ ก็ขอขอบพระคุณ ที่ให้การสนับสนุนที่ดี ตลอดมา "

 นับจากวันแรกที่มาร่วมงานกับสโมสร   จนมาถึงมีนาคม 2565  ผ่านไปร่วมปีเศษ วันที่ตัดสินใจลาออก  ชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง 

 

"ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก จากคนเชียร์ กลายเป็นคนทำงาน อยู่กับทีมฟุตบอล ลุยแบบ ผู้ชายเลย  ช่วงแรก ๆ ลงพื้นที่ เดินทางทำงาน อยู่ โคราช ทุกอาทิตย์ จนลูกน้อง ลูกทีมการตลาดหายไปทีละคน สุดท้าย เหลือแค่ อ้อ กับคน ขับรถ   ตะลอน ๆ เหนื่อยบ้าง แต่ก็สนุกดี 
เรามีสังคมเพิ่มขึ้น  มีเพื่อน ๆ  แฟนบอล   ที่ร่วมเชียร์ และ ทำฟุตบอลไปด้วยกัน เราต้องดูแลร่างกายเราให้แข็งแรง    พร้อมต่อการเดินทางตลอดเวลา  "

จากงานในองค์กรธุรกิจ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานลูกค้า บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด   ( มหาชน) เมื่อมาทำงานในภาคของฟุตบอล  ซึ่งเป็นกีฬา การมีปฏิสัมพันธ์  กับแฟนบอล  กับการมีปฏิสัมพันธ์ลูกค้าในองค์กรธุรกิจ แตกต่างกันอย่างไร 

 

"จริง ๆ ไม่ต่างกัน   ไม่ว่าจะเข้าถึงแฟนบอลหรือ ลูกค้า  เราต้อง ใช้ใจ ในการทำงาน  อย่างแฟนบอล  เราจะลงเข้าไป ทำกิจกรรมร่วมกับเขา เดินทาง ไปช่วยเหลือ ผู้ขาดโอกาส และ ยากไร้ ตลอดจน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ้อ ร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่แฟนบอล ขอมา  
ส่วนลูกค้า  เราต้องให้เขาเข้าใจวิถีฟุตบอล และ สื่อช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้า สื่อสารผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมผลักดันให้มียอดขาย ดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ คอนเซปต์ อ้อ คือดูแลลูกค้าและปฎิบัติ เสมอ เหมือนคนในครอบครัว ทำธุรกิจแบบ Win Win แล้วเราจะคิดออก ว่า เราต้องทำอย่างไร  ดูแลช่วยเหลือกันอย่างไร  สุดท้ายก็จะเป็นเพื่อนกันเราจะดีใจและมีความสุข ที่เห็นลูกค้ามีความสุข "

 
 อนาคต จะกลับมาทำงานในวงการฟุตบอลอีกไหม 
 

"ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณ ผู้ใหญ่ใจดี หลาย ๆ สโมสร ในไทยลีก  ที่ได้ให้โอกาส ให้เกียรติ และมองเห็นความสามารถ ติดต่อทาบทาม ได้มีการพูดคุย แลกเปลี่ยน ในบทบาทและการทำงานในวงการฟุตบอล ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ   ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต" 

เพราะอะไรถึงอยากไปต่อใน การทำงานกับวงการฟุตบอล เป็นฤดูกาลที่ 2 
 

"อ้อ เชื่อว่าการทำงานที่เรารัก  รักในสิ่งที่ทำ มันเป็นความสุข อีกอย่างของชีวิต  อ้อ ทำงาน ด้านการสื่อสารองค์กรมานาน และ ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล มาตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบอลไทย หรือ ต่างประเทศ    การนำความรู้ บวกกับประสบการณ์ และคอนเนคชั่นที่มีอยู่ ได้สามารถนำมาพัฒนา ในการบริหารมาสร้างประโยชน์ให้กับ วงการกีฬา และได้มีโอกาส สนับสนุน เด็กเยาวชนไทย กลุ่มอคาเดมี่   สู่นักฟุตบอลอาชีพในลีกต่างๆ  ถือเป็นอีกหนึ่ง ความฝัน ที่อยาก จะทำ และสนับสนุนวงการฟุตบอลไทย ไม่แพ้ชาติใด  สำหรับ อ้อ แล้ว 
“ไม่ว่าคุณจะทำอะไร จงทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ทุกก้าวคือตำนาน"

เรียบเรียงโดย  : โสภณ เพชรแท้