ข่าว

"ลิเวอร์พูล" บู๊ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ศึกแดงเดือด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟุตบอล "พรีเมียร์ลีก อังกฤษ" คู่บิ๊กแมตช์ "ลิเวอร์พูล" พบ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ในศึกแดงเดือด โดยการพบกันเมื่อต้นฤดูกาลเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกไปถล่มมาได้ก่อน ซึ่งนัดนี้มีความสำคัญต่อทั้งสองทีมสำหรับผลอันดับของตาราง

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ ประจำคืนวันอังคารที่ 19 เมษายน คู่ระหว่าง "ลิเวอร์พูล" พบ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ลงทำการแข่งขัน คืนนี้ 02.00 น. 

"ลิเวอร์พูล" บู๊ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ศึกแดงเดือด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โค้งสุดท้ายของฤดูกาล คู่บิ๊กแมตช์ประจำค่ำคืนนี้ ศึก "แดงเดือด" คู่ระหว่าง "ลิเวอร์พูล" ทีมอันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมอันดับ 5 ของตาราง  ก่อนพบกันของทั้งสองทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่จะลงเล่นเป็นนัดที่ 32 ของฤดูกาล มีผลงานไม่แพ้ใคร 12 เกมติดต่อกันในลีก ผลงานเกมล่าสุด เอาชนะ แมนซิตี้ 3-2 ในศึก เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ   

 

ส่วนทางด้านทีมเยือน ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นเป็นนัดที่ 33 ของฤดูกาล ผลงานชนะ 2 จาก 5 เกมหลังสุด ผลงานเกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ นอริช ซิตี้ 3-2   ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 

ทั้งนี้สถานการณ์ของทั้งสองทีมเหมือนกันคือการเก็บ 3 คะแนน โดย ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงของตาราง จำเป็นต้องการชัยชนะครั้งนี้ เพื่อทำคะแนนแซงขึ้นนำจ่าฝูง โดยปัจจุบัน หงส์แดง ทำผลงานชนะ 22 เสมอ 7 เเพ้ 2 เก็บ 73 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง แมนซิตี้ ที่มี 74 คะแนน  ขณะที่ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเป้าหมายคือการจบท็อปโฟร์ โดยปัจจุบัน ปีศาจแดง รั้งอันดับที่ 5 มีแต้มตามหลัง สเปอร์ส อันดับ 4 อยู่เพียง 3 คะแนน  โดยผลการพบกันเกมแรกที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็น หงส์แดง บุกเอาชนะ ปีศาจแดง 5-0 

 

สำหรับสถิติพบกัน 5 เกมหลังสุดของ "ลิเวอร์พูล-แมนยู" 

  • 24/10/21 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 
  • 14/05/21 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
  • 25/01/21 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 เอฟเอคัพ 
  • 17/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
  • 19/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 

"ลิเวอร์พูล" บู๊ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ศึกแดงเดือด "ลิเวอร์พูล" บู๊ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ศึกแดงเดือด

CREDIT PHOTO : thisisanfield , Twitter@LFC , Twitter@ManUtd

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ