ข่าว

"พนิต" ขอผู้บริหาร เร่งดำเนินการแก้วิกฤติ "พรรคประชาธิปัตย์"

"พนิต" ขอผู้บริหาร เร่งดำเนินการแก้วิกฤติ "พรรคประชาธิปัตย์"

18 เม.ย. 2565

เสียภาพลักษณ์ "พรรคประชาธิปัตย์" "พนิต" เรียกร้องผู้บริหาร กู้ศรัทธา หาวิธีแก้ปัญหาอย่างความรุนแรงทางเพศอย่างเป็นรูปธรรม

พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความส่วนตัวในเฟซบุ๊ค กอบกู้ศรัทธา ปชป. อย่าปล่อยผ่านปัญหา มีเนื้อหาว่าในฐานะที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์มา 20 กว่าปี รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในพรรคที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก หลายวันนี้สังคมมีคำถามและคำวิพากษ์วิจารณ์กับพรรคฯมากมายต่อกรณีที่เกิดขึ้นและเพื่อเป็นการรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพรรคฯ ในฐานะพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด แม้เป็นเรื่องเฉพาะตัว และต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม แต่ความเชื่อมั่นต่อพรรคเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตระหนัก

"พนิต" ขอผู้บริหาร เร่งดำเนินการแก้วิกฤติ "พรรคประชาธิปัตย์"

วิกฤตของพรรคคราวนี้เห็นว่าผู้บริหารพรรคแอ็คชั่นน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะการให้คำตอบกับสังคม ว่าเมื่อเกิดเรื่องแล้ว เราได้ทำอะไรไปแล้วบ้างในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกพรรคที่ให้ความสำคัญเรื่องสิทธิสตรีและเพศวิถี ที่ผ่านมามีการแสดงจุดยืนเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเพศวิถีมาโดยตลอดในทุกๆ ปี ทุกๆ โอกาส มีบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับด้านนี้จำนวนมาก ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมต้องไม่ทำให้มันเป็นเพียงแคมเปญเท่ๆ แต่ต้องทำให้สังคมเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยนิ่งดูดายกับเรื่องพวกนี้

พนิตระบุว่าสิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้คือ พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาไขข้อข้องใจ เช่น พรรคมีกระบวนการตรวจสอบประวัติ คัดกรองบุคคลก่อนมาเป็นสมาชิกพรรคหรือดำรงตำแหน่งต่างๆ ในพรรคหรือไม่ เรารู้หรือไม่ว่าใครมีประวัติแบบใด ถ้ารู้ทำไมถึงรับและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญได้  หรือหลังเกิดเรื่องเราได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่ ใครเป็นคนตรวจสอบ น่าเชื่อถือหรือไม่ ต้องใช้ระยะเวลากี่วัน หรือการให้เขาออกจากตำแหน่งแล้วถือว่าจบ?.

พนิตหวังว่าผู้บริหารพรรคจะมีแอ็คชั่นมากกว่านี้ และทำสิ่งเหล่านี้คู่ขนานกันไปกับกระบวนยุติธรรมที่ทำหน้าที่ในเชิงของกฎหมายเพราะขณะนี้ ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ว่า เกิดเรื่องเหล่านี้กับพรรค แต่อยู่ที่ว่า เมื่อเกิดเรื่องแล้วเราสร้างความเชื่อมั่นและรักษาศรัทธากับสังคมอย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่า สังคมจะแยกแยะเรื่องบุคคลกับเรื่องพรรคได้ ต่อเมื่อเราทำให้พวกเขาเห็นว่า เราไม่เคยปล่อยปละหรือปล่อยผ่านเรื่องเหล่านี้เลย  และเรื่องดังกล่าวนี้ถือเป็นสถานการณ์เร่งด่วน ที่ผมไม่อาจรอให้ เปิดสมัยประชุมสภาฯ ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีการเรียกประชุมส.ส.พรรค จึงอยากฝากความเห็นดังกล่าวนี้ พร้อมให้กำลังใจผู้บริหารพรรค พิจารณา และแก้ปัญหานี้ทันที