ข่าว

เสนอ "ตัดสิทธิ์การเมือง" นักการเมืองคดีข่มขืน"ล่วงละเมิดทางเพศ" ตลอดชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พรรคเสมอภาคเสนอ "ตัดสิทธิ์การเมือง " ตลอดชีวิต นักการเมืองก่อคดีข่มขืน "ล่วงละเมิดทางเพศ" ขณะที่พรรคก้าวไกลชี้ กลไกที่ไม่เอื้อต่อการเข้าถึงความยุติธรรมและทัศนคติเชิงลบต่อเหยื่อ ทำให้คดีการล่วงละเมิดทางเพศพุ่งขึ้น

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ จี้รัฐปรับปรุงระบบรับร้องทุกข์ที่เป็นมิตร พร้อมเปลี่ยนทัศนคติของสังคมช่วยกันปกป้องผู้เสียหาย หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ยกระดับการแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศให้เป็น วาระแห่งชาติ แต่จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด ทั้งที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีตัวแทนทั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เสนอ "ตัดสิทธิ์การเมือง" นักการเมืองคดีข่มขืน"ล่วงละเมิดทางเพศ" ตลอดชีวิต
ปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศมีสาเหตุหลักด้วยกัน 4 ประการ ได้แก่ การที่คนในสังคมยังขาดความตระหนักและขาดการเคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น การขาดกลไกในการเฝ้าระวังปัญหาโดยเฉพาะในระดับครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน การขาดกลไกรับเรื่อง การรับแจ้งความร้องทุกข์ และกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อผู้เสียหาย รวมถึงกลไกการแก้ไขพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด และการขาดกลไกการบำบัดฟื้นฟูแก้ไขเยียวยาต่อผู้เสียหายและครอบครัว พร้อมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งก่อนเกิดเหตุ เมื่อเกิดเหตุแล้ว และหลังเกิดเหตุ ไปยังคณะรัฐมนตรีแล้ว

กรณีนักการเมืองที่เป็นข่าวในปัจจุบัน เป็นตัวอย่างของผู้เสียหายทึ่หวาดกลัว ไม่กล้าแจ้งความ และหลายครั้งยอมถูกกระทำต่อเนื่องกันอีกหลายครั้ง หากรายใดกล้าลุกขึ้นมา ก็ต้องขอความช่วยเหลือกับภาคประชาสังคม องค์กรมูลนิธิต่างๆ หรือต้องทำให้เป็นข่าว ซึ่งเราไม่ควรจะให้กระบวนการที่ต้อง ไม่ปกติ จึงจะได้รับการช่วยเหลือ ให้กลายเป็นเรื่อง ปกติ ไป

นางรฎาวัญ(ลดาวัลลิ์) วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า รู้สึกเสียใจมากที่มีข่าวว่านักการเมืองพรรคใหญ่คนหนึ่งที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรค ถูกกล่าวหาและถูกสังคมกล่าวถึงพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศหลายกรณีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่รอดเงื้อมมือของกฎหมายเพราะมีเส้นใหญ่ ในความเป็นจริงเคยเกิดการล่วงละเมิดทางเพศหลายกรณีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว และเคยได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีทั้งเด็กวัยรุ่น หนุ่มสาว คนในครอบครัว รวมถึงผู้นำท้องที่และนักการเมืองท้องถิ่น และมาถึงวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำการล่วงละเมิดทางเพศเป็นนักการเมืองระดับชาติ เป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคการเมืองชื่อดัง คงจะไปต่อสู้พิสูจน์ความจริงในชั้นศาล

เสนอ "ตัดสิทธิ์การเมือง" นักการเมืองคดีข่มขืน"ล่วงละเมิดทางเพศ" ตลอดชีวิต

อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมองให้ลึกซึ้งในคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งจะพบว่าเป็นเรื่องเลวร้ายกว่าคดีการบุกรุกป่า มากมายหลายเท่า ผู้กระทำผิดในคดีบุกรุกป่าเพียงแค่ทำลายหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติแต่คดีล่วงละเมิดทางเพศ ส่งผลทำลายเหยื่อผู้ถูกกระทำมากมายหลายด้านเช่น ทำให้เจ็บปวดทรมานทางร่างกายและทางจิตใจ ทำให้หวาดกลัว ทำให้มีมลทิน ทำให้อับอาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูก เหยียบย่ำศักดิ์ศรี ทำให้เป็นโรคจิตโรคประสาท โรคซึมเศร้า เกิด"แผลเป็นในจิตใจ"ต้องทุกข์ทรมาณไปตลอดชีวิต เหมือนตายผ่อนส่ง และเหมือนตกนรกทั้งเป็น วันนี้ถึงเวลาหรือยัง? ที่จะกำหนดบทลงโทษคดีคุกคาม ข่มขืน กระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศ ให้รุนแรงขึ้นถึงขั้นตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิตสำหรับนักการเมือง และตัดสิทธิ์การเข้ารับราชการตลอดชีวิตสำหรับข้าราชการ

เสนอ "ตัดสิทธิ์การเมือง" นักการเมืองคดีข่มขืน"ล่วงละเมิดทางเพศ" ตลอดชีวิต

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์  โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าในนามของผู้หญิงคนหนึ่ง  นักการเมืองที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น  การเป็นนักการเมือง ไม่ใช่เพียงเป็นตัวแทนของประชาชนเท่านั้น แต่ท่านมีภาระหน้าที่ในการเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน เพราะประชาชนเอาเราเป็นแบบอย่าง เป็นความหวัง  และยิ่งเป็นนักการเมืองที่มีครอบครัว  การล่วงละเมิดผู้อื่นก็ถือว่าท่านได้ทำร้ายครอบครัวท่านเองด้วย  ขอให้เรื่องนี้กระจ่างโดยเร็ว ขอให้กำลังใจเหยื่อทุกท่านที่กล้าหาญออกมาเปิดเผยความจริง  เหยื่อทุกคนต้องได้รับความยุติธรรม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ