ช็อก!! "ปริญญ์" ประกาศ ลาออกจาก "พรรคประชาธิปัตย์" ทุกตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2565 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ แถลงด่วน กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ มีพ่อดังระดับโลก ลวนลามหญิงสาวที่มาปรึกษาความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยไม่สมยอม และมีการพาดพิงว่าอาจเป็นตนนั้น

 

นายปริญญ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกช็อกและตกใจที่เห็นข่าวในโซเชียลมีเดีย ตนยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่กล่าวหา ขอปฎิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริง ทุกคนก็รู้ดีว่าตนไม่ใช่คนอย่างนั้น ตนเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจตรงนี้ ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ว่าเรื่องส่วนตัวนี้ได้กระทบกับหน้าที่ภารกิจในการปฎิบัติงานของพรรคประชาธิปัตย์

 

“ผมรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับงานของผม ผมยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ และเพื่อไม่ให้กระทบกับงานของพรรค ผมจึงขอลาออกทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันนี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”นายปริญญ์ กล่าว

นายปริญญ์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังรู้สึกช็อกและไม่คิดว่าจะถูกคาดโทษเรื่องนี้ ซึ่งขอยืนยันอีกรอบว่าไม่ใช่เรื่องจริง และพร้อมให้ตรวจสอบทุกข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม

 

ส่วนเรื่องครอบครัวตอนนี้ก็เป็นห่วงตนตามปกติตามประสาครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวทั้งหมดจะขอชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่เท่านั้น

 

ส่วนเรื่องฟ้องกับทนายษิทราตอนนี้ยังไม่ได้คิด ส่วนอนาคตไว้ให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมตัดสิน ซึ่งตนเชื่อว่าอีกไม่นานความจริงจะปรากฎ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอไม่พูดตอนนี้ เพราะกระทบกับหลายหน่วยงาน

นายปริญญ์ แจกแจงอีกว่า ได้พูดถึงกรณีนี้ที่เชื่อมโยงทางการเมืองนั้น ตนขอไม่พูดเพราะไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากนี้ตนยืนยันว่าจะเข้าไปให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเชื่อว่าจะได้เห็นความจริงแน่นอน

 

ส่วนผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายปริญญ์  อธิบายว่า ทุกท่านในพรรคประชาธิปัตย์ให้ตนเป็นคนตัดสินใจเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งตอนแรกตนจะแถลงข่าวตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว แต่กังวลเรื่องคนพักผ่อนช่วงสงกรานต์

 

แต่ถ้าถามว่าตอนนี้อยากช่วยงานพรรคในการช่วยเหลือสังคมหรืออไม่นั้น นายปริญญ์ กล่าวว่า  ตนก็อยากทำอยู่แต่ในเมื่อมีเหตุการณ์นี่เกิดขึ้น ตนก็อยากจะให้เรื่องทุกอย่างจบลงก่อนค่อยคิดกลับมารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งตนต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

"ผมเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคก็รับทราบ และเรื่องราวมั้งหมดในการลาออกผมก็ตัดสินใจเอง ถึงแม้จะมีผลกระทบกับผม แต่ผมคำนึงถึงภาพลักษณ์ของพรรคผมไม่อยากให้กระทบตรงจุดนี้"อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป.แจกแจง

 

นายปริญญ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ตนโทรหาแม่น้องคนนั้นก็เพื่อที่จะปรับความเข้าใจให้ตรงกัน และแสดงเจตนาบริสุทธิ์ใจ ตนไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้หนีไปไหน หากไม่สบายใจให้ทางคุณแม่ของน้องนัดหรือคุยได้ ตนเองไม่มีอะไรที่ต้องซ่อน ยินดีพูดคุยกับทุกคน ซึ่งตอนนี้ข้อมูลทั้งหมดไม่ขอพูดตอนนี้ จะขออธิบายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพื่อให้เข้าใจตรงกัน

 

"ส่วนการนัดทานข้าว ผมยืนยันไม่ได้ไปโรงแรม แต่ไปที่ร้านอาหาร ซึ่งไม่ได้ไปกันแค่ 2 คน มีคนในร้านจำนวนมาก และยังเป็นเวลา 17.00 น. ยืนยันไม่ได้อยู่สองต่อสอง" นายปริญญ์ กล่าวยืนยัน

 

“ผมอยากให้สื่อและทุกคนให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย เพราะเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมเชื่อว่าความจริงจะปรากฎเมื่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากพูดกับสื่อตอนนี้เกรงว่าจะไม่เป็นธรรมกับทุกคน และยืนยันข้อกล่าวหาไม่ใช่ความจริง ผมพร้อมให้ตรวจสอบและขออนุญาตให้การตรงกับเจ้าหน้าที่ในการจะพูดความจริงทั้งหมด และขอเวลาให้ข้อมูลความจริงทั้งหมดก่อน”นายปริญญ์ กล่าว