สัญญาณระลอกใหม่ปรากฎ ฟิลาเดลเฟีย ฟื้นมาตรการบังคับใส่แมสก์ในสถานที่ปิด-อาคารสาธารณะ หลังยกเลิกได้เดือนเดียว ชี้ควรเข้มไว้ก่อนจนกว่าจะรู้พิษสงชัดเจนของสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน
เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เป็นเมืองใหญ่แห่งแรกในสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศฟื้นมาตรการบังคับใส่แมสก์ในสถานที่สาธารณะในร่ม เริ่มมีผล 18 เมษายนนี้ หลังจากยอดผู้ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่จะต้องปรับมาตรการใส่แมสก์ในอาคารตามแนวทางรับมือโควิดของเมืองที่กำหนดไว้ สถิติล่าสุดชี้ว่าฟิลาเดลเฟีย มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 142 ราย แต่จำนวนผู้ป่วยเข้ารพ.มีเพียง 46 ราย
“เมืองของเรายังเปิดอยู่เหมือนเดิม ยังออกไปดำเนินชีวิตประจำวัน ไปเยี่ยมคนและสถานที่ต่าง ๆ ที่อยากจะไปขณะใส่แมสก์ในอาคารสาธารณะ ผมคาดหวังในแง่ดีว่ามาตรการนี้จะช่วยให้เราควบคุมอัตราติดเชื้อได้” จิม เคนนีย์ นายกเทศมนตรีฟิลาเดลเฟีย กล่าว
ฟิลาเดลเฟียไม่มีข้อกำหนดเรื่องตรวจเชื้อ หรือฉีดวัคซีนสำหรับการเข้าไปในร้านอาหารตามมาตรการล่าสุด แค่ต้องใส่แมสก์เมื่ออยู่ในโรงเรียน สถานดูแลเด็ก ร้านอาหาร และอาคารสาธารณะ ไม่ชัดเจนว่ามาตรการบังคับใส่แมสก์ในอาคารสาธารณะ จะใช้ไปถึงเมื่อไหร่
แพทย์หญิงเชอริล เบตติโกล สาธารณสุขฟิลาเดลเฟีย บอกช่อง Fox29 ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโควิดระลอกใหม่เหมือนที่ยุโรปเผชิญในปีนี้ที่เห็นยอดติดโควิดกลับมาพุ่งทะยาน เพราะโอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่แพร่ได้ง่ายและเร็ว สายพันธุ์เดียวกันนี้ยังกำลังเป็นสาเหตุการเห็นยอดติดเชื้อพุ่งในหลายรัฐในอเมริกาและในหลายประเทศทั่วโลก อาจจะสายเกินไปหากไม่ทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งที่เรียนรู้จากโควิดระลอกก่อนหน้าว่าจะตามมาด้วยผู้ป่วยเข้ารพ.และตาย พร้อมชี้ว่า มีชาวฟิลาเดลเฟียเสียชีวิตราว 750 รายจากโอไมครอนระบาดในช่วงหน้าหนาว นี่คือโอกาสที่จะออกตัวก่อนการระบาด ดังนั้น ควรใส่แมสก์ไว้ก่อน จนกว่าเราจะมีข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรงของสายพันธุ์ย่อยมากขึ้น
รัฐและเมืองส่วนมากในสหรัฐ เลิกบังคับใส่แมสก์เมื่อเดือนก.พ.และต้นมี.ค. หลังสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ เลิกเน้นนับจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่เน้นลดอัตราป่วยเข้ารพ. ทั้งแนะในเวลานั้นว่าไวรัสเบาลงแล้ว ส่วนฟิลาเดลเฟียยุติบังคับสวมแมสก์เมื่อ 2 มีนาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง