นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาล "สงกรานต์" ปี 2565 นี้ ช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2565 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค "โควิด-19" แต่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านหรือเยี่ยมครอบครัว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ "บัตรทอง" หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในการเข้ารับบริการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. กรณีเจ็บป่วยระดับฉุกเฉินวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : "UCEP" ) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด
2. กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ระดับฉุกเฉินวิกฤติ หรือกรณีผู้มีสิทธิ "บัตรทอง" ที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น สามารถเข้ารับบริการ ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ หรือ 30 บาทรักษาทุกที่
ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายยกระดับ "บัตรทอง" ที่ได้ขยายบริการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในระบบ "บัตรทอง" ที่อยู่ใกล้ที่สุด เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเหมือนในอดีต
เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่ติดเชื้อ "โควิด-19" และอยู่นอกพื้นที่หน่วยบริการประจำนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงโดยอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว สามารถใช้สิทธิ "UCEP Plus" เพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ได้ และในกรณีที่มีอาการไม่มาก เป็นผู้ป่วย "โควิด-19" ในกลุ่มสีเขียวก็สามารถเข้ารับบริการ ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ในหน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนอกจากบริการที่โรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการนี้ได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมได้เช่นกัน
การเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในการเดินทาง ช่วงเทศกาล "สงกรานต์" อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการใช้สิทธิ "บัตรทอง" นอกจากเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับบริการหากมีเหตุจำเป็น เพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วย
นพ.จเด็จ กล่าวย้ำว่า ด้วย "โควิด-19" ขณะนี้ ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก รวมถึงผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากการคาดการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลัง "สงกรานต์" นี้
ดังนั้นของประชาชนลดการเดินทางไปต่างจังหวัด ขอให้เป็นผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมกันนี้ให้ระมัดระวังดูแลและป้องกันตนเองและคนที่เรารัก ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ "โควิด-19" ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่อย่างน้อย 30 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ การลดความเสี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และการเว้นระยะห่าง เป็นต้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงได้อยู่ที่ความร่วมมือของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง