เลิกตรึงราคา "น้ำมันดีเซล" 1 พ.ค.นี้ เตรียมขยับราคาขึ้นต่อเนื่อง

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ จะเลิกตรึงราคาขายปลีก "น้ำมันดีเซล" 30 บาท/ลิตร  เนื่องจากภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อเดือน  จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล โดยจะทยอยปรับราคาขึ้น

เเต่ปรับขึ้นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลก จากปัจจุบันที่กองทุนฯ อุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 8 บาท ทั้งนี้  หากราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง แต่ก็จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีก เนื่องจากต้องเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อสำรองเงินไว้ใช้ในช่วงวิกฤต  

ส่วนความคืบหน้าการกู้เงินมาช่วยพยุงราคาน้ำมันในประเทศนั้น ในวันที่ 30 เมษายนนี้ จะมีสถาบันการเงินยื่นข้อเสนอปล่อยกู้ให้กับกองทุนฯ แล้ว หลังจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง หรือแม้แต่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ได้ช่วยยืนยันกับสถาบันการเงินว่า กองทุนฯ อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล จึงทำให้เกิดความมั่นใจจะปล่อยกู้เงินก้อนแรก 20,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในการดูแลและดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพของราคาพลังงานของประเทศ โดยพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนฯ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุนฯ เป็นไปตาม พ.ร.บ.กองทุนมาตรา 6 (2) กรณีที่เงินหนุดหนุนจากรัฐบาลที่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน

ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุด้วยว่า ตอนนี้กรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทำตัวเลขส่งให้กับกระทรวงการคลัง ว่า กองทุนฯ ควรจะขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นตัวเลขเท่าไหร่ แต่ในขณะนี้ กองทุนฯ ยังมีกระแสเงินสด หรือ Cash flow อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท แม้สถานะกองทุนฯ จะติดลบแล้วกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่ายังมีเวลา เพราะดูจากสถานการณ์จะต้องเติมเงินเข้าบัญชีกองทุนฯ ก้อนแรก 20,000 ล้านบาทในเดือน มิ.ย. 2565 ส่วนก้อนที่ 2 จะกู้อีก 1 หมื่นล้านบาท และก้อนที่ 3 อีก 2 หมื่นล้านบาท รวม 4 หมื่นล้านบาท