ข่าว

"18 มงกุฎ" อ้างเป็น "รองผู้การฯ"ตุ๋นเหยื่อวิ่งเต้นคดี ผู้เสียหายนับ 10 ราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบปราม ตามรวบแก๊ง "18 มงกุฎ" โทรหลอกห้องวิทยุโรงพักเซกา จ.บึงกาฬ อ้างตัวเป็น รอง ผู้การฯ ล้วงข้อมูลผู้ต้องหาคดียาเสพติด ก่อนโทรตุ๋นญาติวิ่งเต้นคดี

"18 มงกุฎ" อ้างเป็น "รองผู้การฯ"ตุ๋นเหยื่อวิ่งเต้นคดี ผู้เสียหายนับ 10 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.และ พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายจุฑานนท์ อายุ 20 ปี และ นายนัทธิ อายุ 32 ปี ตามหมายจับ"ศาลจังหวัดบึงกาฬ" ที่ จ.32 และ 33/2565 ตามลำดับ ลงวันที่ 28 มี.ค.65 ในข้อหา"ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น" โดยจับกุมนายจุฑานนท์ ได้ที่บริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซอยรามคำแหง 39 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ส่วน นายนัทธิ ได้ที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ย่านถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายจุฑานนท์ และ นายนัทธิ พร้อมพวก ได้โทรศัพท์ไปยังห้องวิทยุ สภ.เซกา จ.บึงกาฬ อ้างตัวว่าเป็น รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เพื่อหลอกสอบถามรายละเอียดของผู้ต้องหา "คดีครอบครองยาเสพติด"ที่อยู่ในความควบคุม สภ.เซกา ก่อนจะแสร้งทำทีขอเบอร์โทรศัพท์ญาติแล้วติดต่อไปหา อ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีให้จบที่โรงพักได้ โดยไม่ต้องไปถึงชั้นศาล แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการ เป็นเงิน 50,000 บาท ญาติผู้ต้องหา"คดียาเสพติด" จึงหลงเชื่อยอมทำตาม

 

แต่เมื่อโอนเงินให้จนครบตามที่ตกลง กลับไม่สามารถติดต่อนายจุฑานนท์ และ นายนัทธิ ได้ อีกทั้งญาติที่ถูกจับในคดียาเสพติดก็ยังคงถูกดำเนินคดีตามปกติ เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก พากันเข้าแจ้งความที่ สภ.เซกา จนมีการออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายจุฑานนท์ และ นายนัทธิ หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม.จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การภาคเสธ แต่รับว่าตนเองเป็นธุระจัดหาเปิดบัญชีให้กลุ่มผู้กระทำความผิดจริง และได้ค่าจ้างเปิดบัญชีหรือจัดหาได้บัญชีละ 2,500 ถึง 5,000 บาท โดยยังมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน แต่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดบ้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด 

 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายพื้นที่ มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 10 คน มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท จึงนำตัวส่ง สภ.เซกา ดำเนินคดีกฎหมาย พร้อมกับ เร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมารับโทษต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ