พี่ชายเปิดใจ อยากให้น้อง "ขอขมาแม่" หลังคิดสั้นพาแฟนบุกก่อเหตุสะเทือนใจ

9 เม.ย.2565   นายกิตติ (สงวนนามสกุล)  หรือ ก๊อต อายุ 23 ปี  ลูกชาย นางจิราพร (สงวนนามสกุล)  อายุ 53 ปี ที่ถูกลูกสาวในไส้อายุ 14 ปี ร่วมกับแฟนหนุ่มอายุ 16 ปี วางแผนทำร้ายจนเสียชีวิต ภายในห้องพักบ้านเอื้ออาทรขจรวิทย์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้นิมนต์พระสงฆ์เพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิต  ตามความเชื่อ ในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งญาติจะได้นำศพ นางจิราพร ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระเจดีย์ ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

 

 

 

 

โดย น.ส.ประภัสสร ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้องคอยประคับประคองทางด้านจิตใจและคอยให้กำลังใจ นายกิตติไปก่อน หลังจากนี้ จะให้นายกิตติ ได้ไปอยู่กับตนก่อน ส่วนที่หลานสาวอ้างว่าทำไปเพราะโดนกดดันนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นความหรือไม่ หากหลานสาวพ้นโทษออกมาแล้ว จะรับดูแลหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้ไปเยี่ยมหลานขอทำพิธีของป้าให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเรื่องเงินบริจาคที่ได้รับมาตนต้องขอขอบคุณ ส่วนในเรื่องปัญหาเรื่องภายในครอบครัวของผู้เสียชีวิต จนทำให้ก่อเหตุตนไม่เคยรู้เรื่องเลย 

 

 

 

 

 

 

 

ด้าน นายกิตติ เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าก่อนวันเกิดเหตุว่า เมื่อวันที่ 5 ช่วงเย็น มีข้อความไลน์มาจากฝ่ายชายเป็นคนทักมาบอกว่าเป็นคนเอาน้องสาวไปอยู่ด้วย ไม่ต้องให้มายุ่งกับน้องสาว ฝ่ายชายจะเป็นคนดูแลเอง จนกระทั่งตนได้ต่อว่าฝ่ายชายทางไลน์ไป ว่าหากไม่ยอมคืนน้องตนเองจะไปแจ้งความ

 

 

 

 

ซึ่งตอนแรกฝ่ายชายทำทีจะไม่คืนและไม่บอกสถานที่ที่น้องอยู่ ช่วงค่ำจึงชวนแม่ไปที่หน้า สภ.บางพลี เพื่อถ่ายรูปแล้วส่งไปบอกฝ่ายชายว่าจะแจ้งความเพราะตอนนี้มาที่โรงพักแล้ว ทำให้ฝ่ายชายกลัวความผิดจึงยอมและบอกจุดนัดหมายให้ไปรับน้อง  ตนและแม่จึงเดินทางไป รับน้องกลับมา  พอมาถึงบ้านตนจึงถามน้องทำไมทำอย่างนี้ น้องได้บอกตนว่าคบหากับฝ่ายชายกันมาได้หนึ่งปีแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ตนไม่รู้เลยว่าน้องคบกันอยู่ มารู้ทีหลังว่าที่ตอนที่น้องไป คนที่มารับน้องสาวไปอยู่กับฝ่ายชายนั้นคือพ่อฝ่ายชายเป็นคนมารับน้อง ตนเองได้เอาโทรศัพท์มือถือของน้องสาวมา ไม่ให้ใช้ 1-2 เดือน ก่อนจะส่งข้อความไปหาฝ่ายชาย แล้วให้ฝ่ายชายเรียกพ่อมาคุย ตนเองจึงต่อว่ากันไปมา แต่พ่อของฝ่ายชายอ้างว่าไม่รู้  รู้แต่ลูกชายให้ไปรับเฉย ๆ ซึ่งตนเองมองว่าจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ แต่ทำไมยอมที่จะให้เด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี ไปอยู่กับลูกชายแบบนั้นมันเหมาะสมแล้วใช่หรือไม่ กระทั่งสุดท้ายต่างฝ่ายต่างบอกว่าจะไม่ติดต่อกันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก

 

 

 

 

และในวันเกิดเหตุตนคิดว่าน้องสาวน่าจะเอาโทรศัพท์ของแม่โทรไปหาฝ่ายชาย ก่อนที่พ่อของฝ่ายชายจะเป็นคนมาส่งลูกชายเขาเอง ถ้าเขาไม่มาส่งแม่ผมก็คงไม่ตาย แล้วไหนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันแล้วต่างคนต่างบล็อกไปแล้ว แล้วจะมาส่งลูกชายทำไม

 

 

 

 

นายกิตติ กล่าวต่ออีกว่า พอตนเข้าห้องไปตนยังรู้สึกผวาอยู่บ้าง ตนพยายามข่มใจตัวเองเพื่อจัดงานศพแม่ ถามว่าให้อภัยน้องหรือไม่ ตนเองก็ตอบไม่ได้เพราะมันจุกจนบอกไม่ถูก หากแม่เฝ้ามองอยู่ตนเองอยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนเองอยู่ได้ เมื่อก่อนอยู่กัน 3 คน ตอนนี้อยู่คนเดียว ตนเองก็อยู่ได้  ตอนนี้ก็อยากให้น้องมาขอขมาแม่ แต่ว่าก็คงจะออกมาไม่ได้ ตนอยากจะฝากบอกน้องว่าให้คิดเยอะ ๆ ก่อนทำอะไร อะไรที่ควรทำก็ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำก็ไม่ต้องทำ 

 

 

 

สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าว จ.สมุทรปราการ