ข่าว

บุกร้อง “อสส.”สามีถูก จนท.อุทยานยิงตาย คดี 3 ปีไม่คืบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผอ.โรงเรียน บุกร้อง”อัยการสูงสุด” สามีถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ยิงเสียชีวิตขณะกำลังหาปลา คดีผ่านมา 3 ปี ไม่คืบหน้า

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 8 เมษายน 65 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นางพิลดา รัตฒนะ อายุ 48 ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทนายความ เดินทางมาสอบถามความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณี นายอภิชัย รัตฒนะ อายุ 45 ปี (ขณะเกิดเหตุ)ประกอบธุรกิจส่วนตัว ไปหาปลาในพื้นที่เกาะพะลวย แล้วถูกเจ้าหน้าที่ของ"อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง" จ.สุราษฎร์ธานี ยิงเสียชีวิต เมื่อช่วงเดือน ก.ค. พ.ศ.2562 โดยมีนายกฤษฎา กสานติกุล อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคณะกรรมการ 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมารับเรื่อง

นางพิลดา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.62 สามีของตนได้ไปพักผ่อนหาปลาที่เกาะพะลวย เป็นปกติ จากนั้นตนได้รับแจ้งว่านายอภิชัย สามีถูกยิงเสียชีวิตโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯโดยอ้างว่า เพื่อปกป้องเขตอุทยาน และคดีได้ผ่านชั้นพนักงานสอบสวนและปลายปี 63 ได้ส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดเกาะสมุย ต่อมาตนได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรม 1 ครั้ง และมีการประสานตามเรื่อง 3 ครั้ง แต่กลับได้คำตอบเดิมๆ ว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายิงจริง ทำให้ไม่น่าจะต้องใช้เวลาขนาดนี้ในการสั่งฟ้องคดี 

 

นางพิลดา กล่าวว่าต่อว่า หลังเกิดเหตุทางอุทยานไม่เคยเข้ามาชี้แจงว่าเหตุใดถึงยิงทำร้ายสามีตน ทั้งที่สามีมีเพียงฉมวกแทงปลาเท่านั้น และในที่เกิดเหตุก็ไม่มีพยาน หรือกล้องวงจรปิด ไม่มีการขอโทษ เยียวยาใดๆ อีกทั้งยังมีคนมาคุกคามตนและครอบครัวตลอดเวลาที่ผ่านมา จึงอยากมาขอความชัดเจนเรื่องคดี รวมถึงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการของอัยการ 

นายกฤษฎา รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายมาสอบถามเร่งรัดคดี การดำเนินการต่อไปก็คือจะนำเรียนท่านอัยการสูงสุด ว่ากรณีนี้มีการติดตามเรื่อง และให้ท่านพิจารณาสั่งการต่อไป ส่วนเรื่องที่ว่าขั้นตอนมีการล่าช้า เบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้ว่าเพราะเหตุใด เนื่องจากยังไม่เห็นสำนวนและไม่ทราบว่าล่าช้าตรงจุดใดและข้อเท็จจริงต้องไปดูในสำนวน ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่เท่าที่ทราบข้อมูลคร่าวๆคือ อยู่ระหว่างการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม แต่โดยปกติทางอัยการจะดำเนินอย่างโดยเร็วอยู่แล้ว ถ้าสำนวนข้อเท็จจริงครบถ้วน แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏอาจจะยังไม่มีความชัดเจนที่จะพิจารณาสั่งคดีได้ ซึ่งคดีกรณีข้อพิพาทเช่นนี้และมีผู้ถึงแก่ความตาย ดังนั้นการพิจารณาสั่งสำนวน ต้องดูข้อเท็จจริงให้รอบคอบ ครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

logoline