ข่าว

สอบเส้นบัญชีเงินจากเจ้าของโรงโม่ เอี่ยวคดียักยอกเงิน"สมเด็จวันรัต"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบปราม ลงพื้นที่ จ.ตราด ตรวจสอบ"ธุรกรรมการเงิน" บริษัทเพชรสยามศิลาตราด จำกัด หลังมีข้อมูลเชื่อมโยง"สมเด็จพระวันรัต" ซึ่งถูกคนสนิทยักยอกเงินกว่า 200 ล้านบาท เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ

สอบเส้นบัญชีเงินจากเจ้าของโรงโม่ เอี่ยวคดียักยอกเงิน"สมเด็จวันรัต"

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 เมษายน 2565 ที่"วัดรัตนวราราม" อ.บ่อไร่ จ.ตราด พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เดินทางพบนายสุรศักดิ์ เจ้าของบริษัท "เพชรสยามศิลาตราด จำกัด" และนายพิชานนท์ ลูกชาย พร้อม พระครูกิตติวัฒนคุณ เจ้าอาวาส "วัดรัตนวราราม" เพื่อติดตามเส้นทางการเงินที่คนสนิท"สมเด็จพระวันรัต" ที่ทำการยักยอกเงินกว่า 200 ล้านบาท 

 

โดยการสอบปากคำครั้งนี้ รอง ผบก.ป.ได้สอบถามในเรื่องเงินที่ทางบริษัท"เพชรสยามศิลาตราด จำกัด"ได้รับการโอนเงินผ่านเข้ามาในบัญชีบริษัท ว่ามีรายละเอียดอย่างไร และมีการเบิกจ่ายไปทำอะไร และให้ใคร รวมทั้งมี"ธุรกรรมการเงิน"อย่างไรบ้าง ซึ่งนายสุรศักดิ์ อิงประสาน และพระครูกิตติวัฒนคุณ ได้อธิบายถึงการเบิกจ่ายและนำเอกสารการเบิกจ่ายที่มีกว่า 50-60 หน้ามาแสดงให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ ทราบซึ่งได้มีการสอบถามในรายละเอียดเพื่อให้ทุกคนได้อธิบายในประเด็นที่ตั้งข้อสงสัย
 

หลังจากใช้เวลานานกว่า 1.30 ชั่วโมง จึงทำการสอบสวนเเล้วเสร็จ โดย พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ที่ต้องเดินทางมาสอบปากคำทั้ง 3 คน เนื่องจากมีเส้นทางการเงินของ"สมเด็จวันรัต"ที่มีการโอนเงินมาจากธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู แล้วส่งมาที่บัญชีโรงโม่"เพชรสยามศิลาตราด" เป็นเงินจำนวนมาก ในการมาก่อสร้าง"วัดรัตนวราราม" ในอำเภอบ่อไร่ มีมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาก่อสร้างจึงต้องเดินทางตรวจสอบว่ายอดเงินการโอนและการใช้จ่ายตรงกันหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีความโปร่งใสและยอดการโอนตรงกัน

สอบเส้นบัญชีเงินจากเจ้าของโรงโม่ เอี่ยวคดียักยอกเงิน"สมเด็จวันรัต"

ส่วนที่ต้องมีการโอนเงินมายังบัญชีของบริษัท "เพชรสยามศิลาตราด" จำกัด นั้น เพราะว่าเจ้าของโรงโม่งเป็นผู้บริจาคที่ดินให้สมเด็จฯ เพื่อก่อสร้างวัดกว่า 60 ไร่ จึงดำเนินการโอนเงินมาให้ แต่การเบิกจ่ายจะมีเจ้าอาวาสวัดและคนของสมเด็จฯดูแลและเบิกจ่ายเอง โดยการโอนในแต่ละครั้งนั้นจะมีจำนวนไม่เท่ากันตลอดระยะเวลา 5 -6 ปี นับร้อยครั้ง ซึ่งจากการจรวจสอบทั้งต้นทางและปลายทางไม่มีปัญหา เพราะมียอดตรงกัน ส่วนการที่คนสนิท"สมเด็จวันรัต"จะมายักยอกเงินนั้นจะมาจากกองไหนนั้นไม่ขอตอบแต่จะอยู่ในสำนวน

สอบเส้นบัญชีเงินจากเจ้าของโรงโม่ เอี่ยวคดียักยอกเงิน"สมเด็จวันรัต"

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ในส่วนของการยักยอกที่จะไปเอาเงินจากกองอื่นนั้นทางตำรวจก็ได้มีการตรวจสอบแล้ว และมีการดำเนินคดีไปแล้ว 2 คดี อีกทั้ง"สมเด็จวันรัต"ได้ตั้งเงินก่อสร้างแยกไว้เป็นกองๆ และมีการเบิกจ่ายเป็นระบบไม่มีการเบิกข้ามกัน จะสร้างโรงเรียน จะสร้างวัดก็ทำไปตามงบประมาณนั้น  และได้ทำการเบิกจายไปตามวัตถุประสงค์

สอบเส้นบัญชีเงินจากเจ้าของโรงโม่ เอี่ยวคดียักยอกเงิน"สมเด็จวันรัต"

ด้าน นายพิชานนท์  และลูกชาย เปิดเผยว่า หลังจากได้แสดงบัญชีทั้งหมดตั้งแต่การเบิกจากมาทำการก่อสร้างวัดก็เบิกจ่ายไปตามที่ได้รับมาจากทางสมเด็จ ฯจึงมีจำนวนกว่า 140 ล้านบาท และเหลือเงินมาอีก 14  ล้านบาท และยอดสุดท้ายโอนเงินมา 19 ล้านบาท เป็นบัญชีของ "วัดรัตนวราราม" ใช้ไปแล้วส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ที่ผ่านมากระแสสังคมได้มองว่าเมื่อมีข่าว"ยักยอกเงิน"ทำให้มุ่งมาที่บริษัทฯ แต่วันนี้ได้เกิดความเข้าใจในการเบิกจ่ายแล้ว ซึ่งไม่ได้รู้สึกกังวลกับเรื่องกฏหมาย แต่กังวลกับกระแสสังคมมากกว่า แต่วันนี้ก็ได้รับทราบอย่างชัดเจนแล้ว และต่อไปการก่อสร้างที่เหลือก็จะได้ดำเนินต่อไปจนแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของท่าน

logoline