
สามารถ เผย "บิ๊กตู่" ให้ดูหนังแล้วคิดตาม เรื่องราวสะท้อนความจริง
"สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" เผย "บิ๊กตู่" ให้ดูหนัง เพื่อสะท้อนความจริงรอบด้านทั้งข้อดีและข้อเสีย และความเสี่ยง
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดูหนังเรื่องล่าราชาคริปโตในเน็ตฟิกเพื่อสะท้อนความจริงรอบด้านทั้งข้อดีและข้อเสีย และความเสี่ยง ตนเองก็ได้ไปดูตั้งแต่เมื่อคืนจนจบ เรื่องนี้เองผมว่าไม่ใช่เรื่องที่จะให้ประชาชนดูเฉยๆ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการหลอกลวง การฉ้อโกง และสุดท้ายมีคนต้องเดือดร้อนจากเรื่องนี้ มีหลายคนที่คาดหวังว่าเงินดิจิทอลจะขึ้นแต่แล้วโอนเงินผ่านตัวกลาง แต่สุดท้ายตัวกลางนั้นโกง เรื่องนี้ผมเคยหารือกับเลขา กลต.ในเรื่องของกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกที่เคยเน้นย้ำว่าจะต้องให้รัฐเป็นผู้ถือ เพื่อที่จะได้รู้ และป้องกันการโกงได้และป้องกันอาชญากรรมประเภทอื่นได้เพราะ ในการที่จะเข้าถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกได้ต้องรู้รหัส ไม่งั้นจะมีอาชญากรรมประเภทอื่นมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟอกเงิน การค้ายาเสพติด การทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายก็จะใช้เงินดิจิทอลเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม ในหนังเรื่องนี้ก็จะสะท้อนให้เห็นมีการโกงขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นได้เลยว่าการสืบสวนเป็นไปได้ยากนี่ขนาดต่างประเทศมีเทคโนโลยีมากมาย แต่ย้อนกลับมาเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีมาบอกให้ชาวบ้านดู ชาวบ้านก็ฝากบอกมาว่าอย่าดูผ่านๆ อยากให้นายกรัฐมนตรีมีการป้องกันในเรื่องนี้ด้วย
ในเรื่องล่าราชาคริปโตเป็นเพียงแค่เสี้ยวนึงของแชร์ลูกโซ่ทั้งหมดที่มี ถ้าท่านนายกฯได้ลงมาดูการหลอกลวงในแบบลูกโซ่ซึ่งมันมีมากมาย ท่านนายกจะเข้าใจ วันนี้หน่วยงานของรัฐไม่มีเจ้าภาพในการทำเรื่องนี้ ไม่มีการเก็บข้อมูล ไม่มีการลงลึก เวลาจับก็คือชาวบ้านไปร้องทุกข์ก็จับได้แต่ปลาซิวปลาสร้อย ส่วนตัวการใหญ่ไม่เคยจับได้ รวมไปถึงเงินของพ่อแม่พี่น้องประชาชนถูกฉ้อโกงไปก็ยากจะตามคืน เพราะว่าประเทศไทยเราขาดหน่วยงานเฉพาะเรื่องนี้ ชาวบ้านถึงฝากท่านนายกฯว่าถ้าดูแล้วก็ให้ท่านนายกช่วยหามาตรการป้องกันไม่ให้คนไทยต้องเดือดร้อนเพราะนับวันอาชญากรรมก็จะเข้ามาในรูปแบบนี้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรหาทุกวัน ไม่มีวันหยุดพักเพราะเขาถือว่าหลอกได้1ก็บาทก็โกงได้1บาทอย่างงั้นเขาไม่มีต้นทุน แต่มันทำให้เกิดการหลอกลวงในสังคม นั้นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องมีการป้องกัน ผมนึกถึงการที่คนไทยปล้นกันเองก็ต้องย้อนไปสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตกในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2310 ที่คนไทยอดยากเพราะถูกพม่าล้อมนานเป็นปีๆ จนคนไทยต้องปล้นคนไทยด้วยกันเอง
ผมจึงอยากฝากไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน กตร. ก็อยากให้ท่านนายกสั่งการให้ตำรวจเร่งปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนและหามาตรการขุดรากถอนโคน ไม่งั้นประเทศไทยก็จะเป็นฐานอาชญากรรมทางเศรฐกิจ ผมดูเรื่องล่าราชาคริปโตนั้นถ้าฝรั่งที่เป็นคนผลิตเรื่องนี้ได้รู้จักกับแชร์แม่ชม้อยผมว่าเรื่องนี้คงนำออกมาถ่ายทอดได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะแชร์แม่ชม้อยนั้นแม้แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ถูกหลอกแม้แต่คนรากคนจนก็ถูกหลอก แต่ประเทศไทยไม่เคยถอดบทเรียนจากเรื่องนี้เลย มีการถูกหลอกจากเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อยๆ เช่น แชร์บลิชเชอร์ แชร์ชาร์เตอร์ แชร์นกแก้ว แชร์ข้าวสาร แชร์โชกุน แชร์แม่มณี แชร์โอดีแคปิตอล แชร์ตะเกียงน้ำมันหอมระเหย จนทุกอย่างถูกมานำแชร์เป็นลูกโซ่ได้หมดนั้นคือการหลอกลวงรูปแบบใหญ่ พ่อแม่พี่น้องประชาชนดูหนังเรื่องนี้ก็หดหู่ ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงแชร์แม่ชม้อยที่ดูแล้วเสียหายมากแต่ปัญหาแชร์ลูกโซ่กับไม่ได้น้อยลงเลย แต่ดันกลับให้มีการหลอกลวงมากขึ้น จึงอยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีเร่งแก้ไขปัญหาคนถูกหลอกกว่าจะได้เงินคืนเป็นสิบปี เป็นแต่ความทุกข์ความเดือดร้อนของเขาทั้งนั้น
มีชาวบ้านจำนวนมากบอกผมว่าถ้าทุกอย่างก็ต้องให้ท่านนายกรัฐมนตรีทำแล้วจะมีรัฐมนตรีไว้ทำไม ชาวบ้านอยากให้นายกสั่งการให้รัฐนมตรีนับผิดชอบ ถ้ารัฐมนตรีทำไม่ได้ก็เปลื่ยนตัวซะ อันนี้คือเสียงเรียกร้องของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผมยังขอย้ำว่าถ้าความนิยมท่านนายกรัฐมนตรีเยอะก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นักการเมือง นักการเมืองตั้งหากที่ต้องวิ่งเข้าหาท่านนายก เหนือสิ่งอื่นใดผมรักท่านนายกรัฐนมตรีต่อจากบิ๊กป้อมเสมอ และยังจำถึงความตั้งมั่นตั้งใจของท่านนายกรัฐมนตรีได้ดี
ท้ายสุดนี้ชาวบ้านขอให้การดูหนังล่าราชาคริปโต นั้นไม่ใช่แค่เพียงการบันเทิง แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ทุกวันนี้มีความรุนแรงมากขึ้น และเข้าถึงคนได้ง่ายขึ้นและรวดเร็ว สร้างความเสียหายมากกว่าการเผาบ้านเผาเมืองเป็นร้อยเท่าพันเท่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องมีมาตรการป้องกันหรือยัง