
'พังทองคูณ'ตกลูกช้างพลายแฝดคู่แรกของไทย
ช้างพังทองคูณ อายุ 35 ปี ที่ บ้านท่าลาด อ.ชุมบุรี จ.สุรินทร์ ตกลูกช้างพลายแฝด นับเป็นคู่แรกของประเทศไทย ทั้งเจ้าของ ชาวบ้าน ต่างสุดปลื้ม แห่รวมแสดงความยินดี
(6มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง บ.ท่าลาด ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งจากชาวบ้าน บ.ท่าลาด ต.ศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่า มีช้างในหมู่บ้านตกลูกออกมาเป็นลูกแฝดช้างพลาย สร้างความปลื้มใจให้กับเจ้าของและชาวบ้านพากันร่วมแสดงความยินดีเป็นอย่างมาก เมื่อไปถึงที่หมู่บ้านท่าลาดดังกล่าว เห็นชาวบ้านจำนวนมากต่างมุงดู ช้างแม่ลูก ซึ่งเจ้าของนำไปผูกไว้ที่ทุ่งนา ใกล้กับวัดบ้านท่าลาด จำนวนมาก จึงได้เข้าดูพบแม่ช้างยืนเคลียคลออยู่กับลูกช้างที่เพิ่งเกิดใหม่ 2 เชือก แบบไม่ห่าง และไม่มีอาการดุร้ายแต่อย่างใด มีนายประไพ โมกหอม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่152 บ.ท่าลาด ต.ศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นเจ้าของเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นายประไพ โมกหอม เล่าให้ฟังว่า ตนมีช้างอยู่ 1 เชือก และช้างที่ตกลูกแฝดเป็นของตนชื่อพังทองคูณ อายุ 35 ปี โดยพังทองคูณตั้งท้องมาถึง 21 เดือน จนกระทั่งเวลา 01.09 น.วันที่ 6 มีนาคม 2553 พังทองคูณได้ตกลูกออกมาเชือกแรก และเวลา 03.09 น. ก็ตกลูกที่ 2 ออกมา ซึ่งลูกช้างทั้งคู่เป็นช้างพลาย รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก โดยมีพลายพัสดิน ช้างของนายวินัย แสนสุข เป็นพ่อพันธุ์ พังทองคูณ เป็นช้างแสนรู้ มาอยู่กับตนได้ 3 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหา นับเป็นช้างเชือกที่ 2 ที่ตกลูกแฝด หลังจากที่พลายจุ๋มและจิ่ม ถือกำเนิดขึ้น เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ก็ดีใจจนบอกไม่ถูก ส่วนชื่อของช้างน้อยทั้ง 2 เชือก จะมีการตั้งชื่อจะยังไม่ตั้งในตอนนี้
ด้านนายทศพล ต่อศรี นายสัตวแพทย์โรงพยาบาลช้างจังหวัดสุรินทร์บอกว่า หลังจากมาตรวจร่างกายของช้างแม่และลูก พบว่ามีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ลูกช้างแฝดน้ำหนักตัวประมาณ 70-80 กิโลกรัม ในขณะเดียวกันก็ได้ให้เจ้าของให้อาหารที่เป็นประโยชนต่อแม่ช้างมากขึ้น เพื่อให้ผลิตน้ำนมให้ลูกช้างดื่มได้ทัน ในขณะเดียวกันกรณีที่เป็นลูกแฝดเป็นช้างพลายทั้งคู่ ถือเป็นเรื่องที่หายากมาก แฝดคู่นี้น่าจะเป็นแฝดคู่แรกในประเทศไทยที่ลูกช้างเป็นเพศเดียวกัน



