ข่าว

จับแล้วแก๊งรีดทรัพย์เป็น "ตร.ไซเบอร์" เร่งสอบหากผิดจริงให้ออกราชการทันที

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษก ตร. เผย จับได้แล้ว 4 ตำรวจแก๊ง "รีดทรัพย์ "นักพนันออนไลน์ เป็น"ตร.ไซเบอร์" จริง "ผู้การฯแจง" สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากผิดโทษถึงไล่ออก

1 เม.ย. 2565  จากกรณีที่มีผู้เสียหายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็น ตำรวจไซเบอร์ เข้าตรวจค้นและข่มขู่เพื่อเรียกทรัพย์สิน จากผู้เสียหาย  พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าหากกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จะสั่งดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด หรือลงโทษ ไล่ออกจากทางราชการ 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (31 มี.ค.) มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวได้แล้ว 4 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบ ทั้งหมดเป็นตำรวจจริง โดย 2 คน เป็น ตำรวจไซเบอร์ ส่วนอีก 2 คน เป็นตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เบื้องต้น ทั้ง 4 คน ยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว  

 

 

จับแล้วแก๊งรีดทรัพย์เป็น "ตร.ไซเบอร์" เร่งสอบหากผิดจริงให้ออกราชการทันที

 

 

 

 


 

ด้าน  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง โฆษก ตร.) เผยได้รับรายงาน จากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์  ว่าได้ทำการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่าผู้กระทำความผิดเป็นกลุ่มบุคคลประมาณ 15 ราย

 

“ทางการข่าวมี 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.สอท. จริง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งในคำสั่งล่าสุดที่ผ่านมา และ บช.สอท. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับการกระทำความผิด จะพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างถึงที่สุด จนถึงขั้นไล่ออกจากราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป นอกจากนี้ทางผู้เสียหายจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับคณะกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการทางวินัยต่อไป”

 

 

จับแล้วแก๊งรีดทรัพย์เป็น "ตร.ไซเบอร์" เร่งสอบหากผิดจริงให้ออกราชการทันที

 

 

สำหรับผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นั้น ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นเพียงการนำชื่อไปกล่าวอ้างในการกระทำความผิดร่วมกันเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานต้นสังกัดจะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานกันไปอีกทางหนึ่ง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. จริง ก็จะดำเนินการทางอาญาและวินัยถึงขั้นถึงที่สุดเช่นกัน ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ปรากฎ

 

 

 

“การดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดในกรณี นั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.บางนา จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เร่งพิสูจน์ทราบผู้ร่วมกระทำความผิดในส่วนที่เหลือ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ต่อไป”

 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยงานที่ถูกพาดพิง ให้พิจารณาดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ และเร่งทำความจริงให้ปรากฏแก่สังคม หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดทุกราย ไม่มีข้อยกเว้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป พร้อมกำชับให้กวดขันดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้กระทำผิดในลักษณะนี้อีก

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ