“สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” เปิดใจหลังโดนยึดที่ราชบุรี ยันซื้อถูกต้องกฎหมาย
แม่ธนาธร “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” เปิดใจหลังโดนยึดที่ราชบุรี ยืนยันซื้อถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก โดยเอกสารสิทธิ์ที่ดินออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดินมีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง
จากกรณีที่กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก.ของ"นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ"และบุตรอีก 2คนคือชนาพรรณและธนาธร เนื่องจากพบว่าเป็นที่ป่าไม้ถาวรนั้น
"นางสมพร"ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่สังคมและสื่อต่างๆ ไปพาดหัวว่าตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ รุกที่ป่า กินป่า เพราะนี่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับตนเองและครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริตและตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลังมาโดยตลอดและขอโอกาสชี้แจง เพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม
.
"นางสมพร" ระบุว่า ตนไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก โดยเอกสารสิทธิ์ที่ดินออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดิน มีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง ต่อมาในปี 2533 ตนได้รับการแนะนำจากนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งในสมัยนั้นเป็นนักการเมืองสำคัญในบ้านเมืองให้มาซื้อที่ดินจากบริษัทมิตรผล ที่เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งนายกมล ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัทมิตรผล ก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี เมื่อทั้งเจ้าของและผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดเลยว่าที่ดังกล่าวจะผิดกฎหมาย
ฉันยืนยันว่าครอบครัวเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการออกเอกสารสิทธิ์ นส. 3 ก ตอนที่ฉันซื้อที่ดินก็มีเอกสารสิทธิ์รับรองถูกต้องตามกฎหมาย ซื้อขายมาหลายทอดแล้วและฉันก็ไม่มีอำนาจบารมีไปบังคับ ข่มขู่ ให้เจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิ์ให้ ที่ดินก็เป็นที่ของบริษัทใหญ่ มีเครดิตดี คนแนะนำเป็นนักการเมืองใหญ่ เอกสารสิทธิ์ก็มีเรียบร้อย เราจึงไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหาอะไรทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวว่า "นางสมพร" เคยมีบันทึกกับกรมที่ดินว่ารับทราบอยู่แล้วว่า ที่ผืนนี้เป็นที่ป่า นางสมพรยืนยันว่า เอกสารฉบับนี้เนื้อหาระบุแค่ว่าตนรับทราบว่าที่ดินแปลงนี้อาจเป็นหรือไม่เป็น ที่ป่าไม้ถาวรก็ได้ บันทึกถ้อยคำดังกล่าว สำนักงานที่ดินทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนฟ้อง ถ้ามีการเพิกถอนสิทธิในภายหลัง ซึ่งในกรณีนี้ กรมที่ดินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าหรือไม่ แล้วตนเองเป็นราษฎรธรรมดาจะทราบได้อย่างไร
ฉันมีที่ดินผืนนี้มา 30 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไรกระทั่งลูกชายมาทำงานการเมือง ลูกก็โดนยัดคดีร้ายแรงให้สารพัด ส่วนตัวฉันเองก็โดนร้องเรียนว่ารุกป่า กินป่า เป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีใหญ่โต ฉันยืนยันตรงนี้ว่าที่ผืนนี้ ถึงจะซื้อมาถูกกฎหมายทุกประการ มีเอกสารสิทธิ์เรียบร้อย แต่อยู่มาวันหนึ่งรัฐบอกว่าผิด จะเพิกถอน ฉันไม่มีปัญหา แต่ต้องไปพิสูจน์ถูกผิดกันตามกฎหมาย ถ้าออกมาว่าเป็นป่าจริง ฉันยินดีคืนที่ให้ แต่อย่ามากล่าวหาว่าครอบครัวฉันโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด "นางสมพร" กล่าวทิ้งท้าย