ข่าว

ผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายแหกห้องขังหนีกลางดึก

ผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายแหกห้องขังหนีกลางดึก

06 มี.ค. 2553

ตำรวจสามโคก ปทุมธานี วิ่งวุ่นหลังผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายแหกห้องขังหลบหนีกลางดึก

(6มี.ค.) เวลา 03.00 น. พ.ต.ท.ไชยันต์ ดาวเรือง สารวัตรเวรสอบสวนอาญาสภ.สามโคก ได้รับแจ้งจาก ด.ต.สุรเชษฐ หาญสมบัติ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราบปฎิบัติหน้าที่สิบเวรประจำวันหน้าห้องขัง ว่า ได้มีผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแหกห้องขังหลบหนีออกไปจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาประจำโรงพัก

 ซึ่งหลังจากรับแจ้งแล้วจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงได้เดินเข้าไปตรวจสอบห้องขังดังกล่าว

 จากการตรวจสอบห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา(ห้องขัง)ซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของโรงพักพบว่า ที่ลูกกรงห้องขังเยาวชนซึ่งเป็นห้องที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้มีร่องรอยการเลื่อยลูกกรงออกไป 1 ซี่ ความกว้างประมาณ 30 ซม.และเสื้อยืดสีน้ำเงินวางพาดอยู่ที่ลูกกรง1 ตัว

 ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีออกไปคือ นายทวีศักดิ์ หรือตั๊ม อ่างบัว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 ม.5 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี เลขที่ 56/2553 ลงวันที่ 23 ก.พ.53

 ร.ต.ท.นิยม พึ่งเป้า รองสว.สส. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปทำการจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ฯ ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2553 ซึ่งจับกุมได้ภายในเขตจังหวัดอยุธยา

 จากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่โรงพักและนำตัวมาคุมขังภายในห้องขังดังกล่าว และจะนำตัวนายทวีศักดิ์ฯ ส่งขึ้นศาลจังหวัดปทุมธานีในช่วงเช้านี้ พร้อมกับนายสุนทร ชาลีภัทรกุล อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 25 เม็ดและจับมาเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 มี.ค.53

 ร.ต.ท.นิยม กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นได้ทำการสะเก็ดภาพของนายทวีศักดิ์ฯ ออกไปติดตามบ้านเรือนประชาชนเพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นช่วงแจ้งเบาะแสในการติดตามจับกุมตัว พร้อมทั้งจะเร่งติดตามตรวจค้นไปยังบ้านของญาติและเพื่อนของผู้ต้องหาที่คิดว่าผู้ต้องหาอาจจะไปหาเพื่อขอหลบซ่อนตัว

 ล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปเชิญตัว น.ส.เติม ดาวเรือง อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของผู้ต้องหารายนี้มาทำการสอบสวนเพราะก่อนหน้าที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีไปได้มีน้าสาว และแม่ของผู้ต้องหามาเยี่ยมอยู่เป็นประจำ

 ด้าน ด.ต.สุรเชษฐ์ หาญสมบัติ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ซึ่งปฎิบัติหน้าที่สิบเวรประจำห้องขังนั้น กล่าวว่า เมื่อกลางดึกตนเองก็ปฎิบัติหน้าที่เฝ้าห้องขังอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดและกอ่นที่จะพบว่าผู้ต้องหานั้นหลบหนีไปนั้นตนเองได้เกิดปวดท้องอย่างรุนแรงจึงได้เดินออกไปทำธุรกิจส่วนตัวภายในห้องน้ำซึ่งอยู่ข้างๆห้องขังห่างกันแค่ 10 เมตรเท่านั้น

 ทั้งนี้ก่อนที่ตนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ยังมองมาที่ห้องขังก็ยังเห็นว่านายทวีศักดิ์ฯและนายสุนทร ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังนอนหลับอยู่ภายในห้องขัง จนกระทั้งทำธุระเสร็จแล้วก็ประมาณ 20 นาทีจึงได้เดินกลับมาที่ห้องขัง เพื่อปฎิบัติหน้าที่ดังเดิมก็พบว่าเสื้อยืดสีน้ำเงินวางพาดอยู่กับขอบลูกกรงห้องขังเมื่อเข้าปตรวจสอบใกล้ๆจึงเห็นว่าลูกกรงเหล็กหายไป 1 ซี่และเมื่อหันไปดูภายในห้องขังจึงรู้ทันทีเลยว่านายทวีศักดิ์ฯ ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นหายไปจึงได้รีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที

 จากการสอบปากคำนายสุนทร ชาลีภัทรกุล อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด และถูกคุมขังในห้องเดียวกันกับนายทวีศักดิ์ ที่แหกห้องขังหลบหนีออกไปกล่าวให้การว่า หลังจากที่ตนเองถูกจับคุมขังอยู่ในห้องก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายทวีศักดิ์ฯเลยและไม่คิดว่านายทวีศักดิ์ จะวางแผนแหกห้องขังหนีออกไปด้วยซ้ำ

 อีกทั้งเมื่อคืนตนเองก็นอนหลับด้วยความอ่อนเพลียและไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น มารู้อีกทีว่าเพื่อนผู้ต้องหาที่นอนอยู่ข้างๆตนนั้นได้แหกห้องขังหลบหนีออกไปแล้วก็ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวรหน้าห้องขังตะโกนปลุกตนให้ตื่นนั่นเอง