รวบ"เสี่ยเต็นท์รถมือสอง" ตุ๋นเหยื่อลงทุนเสียหายกว่า 60 ล้าน

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.65 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ.และ พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 บก.ปคบ.นำกำลังจับกุมนายสหพร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ"ศาลอาญามีนบุรี" ในข้อหา"ร่วมกันฉ้อโกง" จำนวน 5 หมายจับ พร้อมของกลาง รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ในพื้นที่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 

สืบเนื่องจากช่วงระหว่างปี 2563 - 2564 ขณะที่ นายสหพร ผู้ต้องหารายนี้ และ น.ส.รัตศุภา (สงวนนามสกุล) ภรรยา ประกอบกิจการเปิด"เต็นท์รถรับซื้อ-ขายรถมือสอง" ตั้งอยู่ที่ ถ.สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร แต่กลับแอบนำรถยนต์ และเล่มทะเบียนรถยนต์ของผู้เสียหาย ที่นำรถมาจอดฝากขาย จำนวน 117 คัน ไปขอ"สินเชื่อ" กับบริษัทสินเชื่อเอกชน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว จากนั้นก็จะอ้างกับทางเจ้าของรถว่า รถยังขายไม่ได้ติดปัญหาต่างๆ เพื่อหน่วงรั้งเล่มรถไว้

นอกจากนี้นายสหพร และ น.ส.รัตศุภา ยังอาศัยโปรไฟล์ของตนเองที่เป็นเจ้าของเต๊นท์รถ ไปหลอกเอาเงินจากผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่ง ให้มาร่วมลงทุนซื้อรถมือสองแล้วจอดฝากขายที่เต๊นท์ อ้างได้รับค่าตอบแทนสูง  แต่เมื่อผู้เสียหายนำเงินมาร่วมลงทุนกลับไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง เนื่องจากไม่มีการลงทุนดังกล่าวอยู่จริง ซึ่งรถที่จอดอยู่ในเต็นท์ส่วนใหญ่ก็เป็นรถของผู้เสียหายกลุ่มแรกนำมาจอดฝากขายไว้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกสองสามีภรรยาคู่นี้หลอกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 64 ล้านบาท รวมกันเข้าแจ้งความกับทาง สน.บางเขน จนมีการออกหมายจับ 

ก่อนที่ต่อมา น.ส.รัตศุภา ผู้เป็นภรรยา จะชิงเข้ามอบตัว คงเหลือ นายสหพร ผู้ต้องรายนี้ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า ปัจจุบัน นายสหพร ได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการสอบสวน นายสหพร ให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สน.บางเขน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป