"อิศเรศ" โต้เบนเข็มชกมวย สับสื่อใส่ไข่ ลั่นเลี้ยงชีวิตเตะฟุตบอลเดินสาย
"อิศเรศ" อดีตนักฟุตบอลสโมสรบางกอกเอฟซี ซึ่งถูกลงโทษห้ามเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลอาชีพนาน 3 ปี จากปมในเรื่อง"ฟันศอก" ใส่เพื่อนนักฟุตบอล เปิดใจ "คมชัดลึก" สุดฉุน ถูกสื่อลากเข้าไปเกี่ยวข้องว่า ไร้ทางออกไม่มีเงินเลี้ยงลูก จนต้องไปของานชกมวย ย้ำชัดสื่อนั่งเทียน
อิศเรศ น้อยใจบุญ อดีตนักฟุตบอลสโมสรบางกอก เอฟซี ทีมในไทยลีก 3 ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึก" ว่า ตนเองได้รับผลกระทบจากการทำงานของสื่อที่บิดเบือน และสร้างกระแสถึงขั้นที่ระบุว่า ตนเองเดือดร้อนจากการที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพ เพราะถูกลงโทษจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ห้ามเกี่ยวข้องกับฟุตบอลอาชีพนาน 3 ปี ซึ่งจากความเดือดร้อนจากการขาดแคลนรายได้ที่จะนำมาเลี้ยงดูครอบครัว ทั้งภรรยา และลูก 3 คน สื่อถึงกับระบุว่า ตนอยากไปของานชกมวย จากโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่ง เรื่องดังกล่าว"อิศเรศ" ขอชี้แจงกับ " คมชัดลึก"ว่า เป็นการใส่สีตีข่าว และบิดเบือน
"อิศเรศ" กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องนี้ถูกโยงและเป็นประเด็นจากสื่อทั้งในสายฟุตบอลและสายกีฬามวยไทย เชื่อมโยงไปถึงโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่ง กระทั่งโปรโมเตอร์มวยรายนี้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หากตนต้องการรับงานชกมวย เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว ก็ขอให้ตนได้เข้าไปหารืออย่างเป็นทางการ ที่อคาเดมี่หรือยิมฝึกซ้อมของโปรโมเตอร์มวยรายดังกล่าว ถึงนาทีนี้ขอย้ำว่า ตนไม่เคยกล่าวพาดพิงถึงเรื่องที่จะหันเห ไปประกอบอาชีพชกมวยไม่ว่าจะเป็นการชกมวยชั่วคราว หรือ ชกมวยในระยะยาว
เรื่องดังกล่าวขอสาบานและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ และไม่เคยพูดพาดพิงไปถึงมวยไทย และแปลกใจว่า ทำไมสื่อดึงเอาเรื่องมวยไทย มาเกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในการที่เป็นนักกีฬา ตนคือนักฟุตบอล ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีทำร้ายร่างกายนักฟุตบอลสโมสรนอร์ทกรุงเทพ เอฟซี ตนรับผิดทุกอย่าง ทั้งกระแสสังคม และบทลงโทษที่มาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
แต่สิ่งที่ร้องขอความเป็นธรรมผ่าน"คมชัดลึก" ก็คือ สื่ออย่านำเอาเรื่องของตนไปบิดเบือน ว่าไร้หนทางที่จะเลี้ยงดูครอบครัว จนถึงขั้น ต้องไปของานชกมวย ต้องขอความเมตตาจาก
โปรโมเตอร์มวยให้หางานให้ทำ การที่สื่อพาดพิงถึงตนแบบนั้น ทำให้ตนเสียศักดิ์ศรี ในแง่ของความผิดพร้อมรับผิดทุกอย่าง ทั้งการดำเนินคดีทางกฏหมาย จนมาถึง การลงโทษของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แต่ขอร้องว่าอย่าดึงเอาตนไปยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น เพราะมันไม่ต่างไปจากการทำลายศักดิ์ศรีของตนเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพ แต่ก็พร้อมที่จะดิ้นรนด้วยตัวเอง กับการยึดอาชีพนักฟุตบอลเดินสาย
แม้ว่ารายได้จะไม่เทียบเท่า แต่ตนก็พร้อมที่จะยอมรับ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่กับฟุตบอลที่รัก แม้ว่าจะต้องเปลี่ยนสถานภาพจากนักฟุตบอลอาชีพ มาเป็นนักฟุตบอลเดินสาย ตนก็พร้อมรับสภาพ แต่ขอย้้ำว่าอย่าบิดเบือน อย่าดึงเอาตนไปสร้างกระแสว่า สิ้นไร้หนทางจนถึงขั้นต้องหันไปชกมวยไทยหารายได้ มันเป็นการกล่าวอ้างที่เกินเลยความเป็นจริง เพราะตนคือนักฟุตบอลและจะดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองต่อไปด้วยฟุตบอลเดินสาย ไม่ใช่การชกมวยไทย หรือมวยสากล ไม่ใช่การชกมวยโชว์ ขอให้สื่ออย่าบิดเบือน