ข่าว

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เวทีแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ "การเมืองใหญ่จะพาประเทศไทยไปทางไหน " Nation Dinner Talk Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2022 4พรรคการเมืองมอง "รัฐราชการ" เป็นปัญหาแก้ "วิกฤติประเทศ"

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด และวิกฤตการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี-สิ่งแวดล้อม เราจะออกจากวิกฤตนี้ได้ต้องเริ่มแก้ที่วิกฤตการเมืองก่อน เพราะติดกับดักความขัดแย้ง ตั้งแต่ปี 2548 หรือ 17 ปีมาแล้ว มีการสร้างวาทกรรมต่างๆขึ้นมา เกิดความขัดแย้งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะลดน้อยถอยลง มีแต่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาของรัฐราชการ ที่บริหารงานล้มเหลว เกิดความเหลื่อมล้ำอย่างสูง  พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่าต้องปลดล็อคประชาชนออกจากสิ่งกดทับ คือใบอนุญาตกฎหมายต่างๆ ที่ล้าสมัยประมาณ 1,500 ฉบับ เราจะออกพ.ร.ก. 1 ฉบับ เพียง 3 สัปดาห์ พักการใช้ใบอนุญาต และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชนทันที อย่างน้อย 1,200-1,300 ฉบับ เหลือแค่ 200-300 ฉบับ และการให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสทำมาหากิน เข้าถึงทุน แหล่งความรู้ มีกองทุน SME กองทุนวิสาหกิจชุมชน กองทุนท่องเที่ยว กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก และเราต้องสร้างประเทศไทยจากจุดแข็งของเราคือการท่องเที่ยว สุขภาพ และอาหาร นอกจากนี้ยังต้องเอาประโยชน์จากโลกยุคใหม่ ทำให้ไทยเป็น Digital Hub ให้ได้ พรรคการเมืองจะต้องปรับเปลี่ยนเป็นพรรคที่เป็นของประชาชน เพื่อประชาชนเท่านั้น

 

 

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วิกฤติและภาวะที่ท้าทาย ประเทศไทยต้องการรัฐบาลที่มีศักยภาพมากขึ้น  มีขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พร้อมทั้งกล่าวถึงงบประมาณที่ขณะนี้ 40% เป็นรายจ่ายประจำปีจะต้องนำไปถูกจ่ายให้กับข้าราชการ  และนำไปสนับสนุนรัฐราชการ อีกทั้งยังสร้างหนี้เพิ่มมากขึ้นและไม่มีงบประมาณที่จะนำมาแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง เชื่อว่าหากไม่มีการปฏิรูประบบราชการ หรือโครงสร้าง สร้างภาครัฐ ทั้งระบบ เอื้อนายทุน กระจายรายได้ไม่ให้กระจุกตัว คืนอำนาจคืนโอกาสให้กับประชาชนผ่านการปลดล็อคท้องถิ่น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ระบุว่าปัจจุบันเราอยู่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ไม่เหมือนในอดีตเพราะเป็นวิกฤติระดับประชาชน ที่ไม่ได้จำกกัดเฉพาะคนยากคนจน แต่ชนชั้นกลางกำลังเดือดร้อนอย่างสาหัส  ในช่วง2ปีที่ผ่านมา นอกจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นจากวิกฤติโควิด19 แถมยังมาเจอวิกฤติของสงครามเข้ามาอีก มาตรการชุดความคิดนโยบายที่อิงกับความคิดในอดีตไม่สามารถที่จะใช้การได้อีกแล้ว ปัจจัยการผลิตหลัก 4 ข้อ ไม่เพียงพอ เราต้องเติมนวัตกรรมเขาไป ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตกรรม หรือผู้ประกอบการ โดยต้องสร้างด้วยการศึกษาที่ดีขึ้น ต้องมีบุคลากรที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้  แต่ทุกอย่างจะไม่สามารถเป็นไปได้หากประเทศไทยยังคงไว้ซึ่งระบบราชการแบบเดิม ต้องนำระบบราชการทั้งหมดเข้าสู่ระบบดิจิตอล ทำให้ระบบราชการอยู่ในโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่จะตามมาคือประสิทธิภาพและต้นทุนที่ลดลง ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ทัศนคติ Mindset เปลี่ยนแปลงระบบราชการเพื่อปลดล็อกระบบเศรษฐกิจให้กับภาคเอกชนและประชาชน ประเทศไทยจะก้าวหน้าได้

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

นายอุตตม สาวนายน ผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สุ่มเสี่ยงและน่าห่วง เราเผชิญวิกฤติเชิงซ้อนที่ตอกย้ำและเขย่าโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่เปราะบางอยู่แล้ว ยังต้องพบกับความทุกข์จากค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ผู้ประกอบการถูกซ้ำเติมด้วยต้นทุนการผลิตที่ทะยานขึ้นรวดเร็ว และยังมีโครงสร้างรัฐราชการที่เป็นโครงสร้างรวมศูนย์การตัดสินใจและอำนาจมาในอดีต แต่โครงสร้างแบบนี้ไม่สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากวิกฤตินี้ หากไม่มีการปฏิรูปนับวันจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและอนาคตที่สดใสของคนไทยหรือไม่  วันนี้อยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันสร้างอนาคตประเทศไทย ด้วยแนวทาง 5 สร้าง คือ สร้างเศรษฐกิจฐานรากไทยให้เข้มแข็ง , พัฒนาภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจประเทศไทยมีความจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ , สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล , สร้างคนและวิทยาการให้มีความพร้อมที่จะรับความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในอนาคต และร่วมสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่สร้างความร้าวฉาน เป็นประชาธิปไตยแท้จริง 

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับวิกฤติปัญหาโควิด วิกฤติ เศรษฐกิจและการเมือง โดยประเด็นการเมือง พรรคการเมืองจะต้องมีหน้าที่นำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยยิ่งขึ้น หากไม่ทำ เชื่อว่าจะเกิดแรงเสียดทานทางการเมือง การบริหารประเทศจะไม่มีวันจบ ทิศทางที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำ คือ เน้นการสร้างเมืองและกระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ อนาคตประเทศไทยต้องเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย โดยไม่ใช่ประชาธิปไตยไส้แห้ง หรือประชาธิปไตยท้องถิ่นแต่ต้องเป็นประชาธิปไตยท้องอิ่ม หรือที่เรียกว่าประชาธิปไตยกินได้เท่านั้นจึงจะเป็นทางรอดของประเทศไทย

ตัวแทน 4พรรคการเมืองมองว่า รัฐราชการเป็นอุปสรรคต่อการแก้ "วิกฤติประเทศ"

นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวในหัวข้อแผนฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเสนอแนวคิดการนำเทคโนโลยีการเกษตร มาบวกกับองค์ความรู้ที่มีอยู่ทั่วประเทศ หรือปราชญ์ชาวบ้าน เช่นหลักการปลูกข้าวแบบใหม่ที่ใช้น้ำน้อย ลงใช้ปุ๋ยน้อยลง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น ได้ผลผลิตต่อไร่มากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมประเทศไทยน้อยที่สุด สร้างจุดแข็งใหม่ ช่วยเสนอแนวคิดพัฒนาชีวิตด้วยเศรษฐกิจสีเขียว จากเดิม เราใช้ Black Gold หรือ น้ำมัน หรือ ฟอสซิลฟีโอ เราจะเปลี่ยนมาเป็น Green Gold นี่คือคาร์บอนเครดิต เมื่อเรามีแนวคิด Green Gold แล้ว จะนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามา การผลิตคริปโตเคอเรนซี่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และเราจะทำ Green Coin ขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนคอยตัวนี้ตามความเหมาะสมต่อไป และจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนซื้อขายเทรดดิ้งคาร์บอนเครดิตตลอดเวลา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ