"โจ๋ซ่า"ยกพวกปา"ระเบิดปิงปอง"ถล่มคู่อริ แฉสัปดาห์เดียวเกิดเหตุ 3 ครั้ง

เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 29 มี.ค.65 พ.ต.ต.ภัณกร อุณวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับเเจ้งเหตุ"กลุ่มวัยรุ่น"ก่อเหตุปาระเบิด ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรุดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่องรอยของ"สะเก็ดระเบิด"รวม 3 จุด นอกจากนี้ยังพบรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน 2 ขธ 383 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายที่บริเวณกระจกหน้ารถ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ตรวจสอบภาพจาก"กล้องวงจรปิด" บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มวัยรุ่นชายประมาณ 15 คน บางคนใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ บางคนใส่หมวกเเก๊ป เดินเข้าไปในหมู่บ้าน แล้วขว้างปาระเบิดจำนวน 4-5  ครั้ง หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นได้รีบวิ่งหนีออกไปทางหน้าหมู่บ้าน

น.ส.อนุสรา กลั่นคุ้ม อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานธนาคาร เจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า มีเด็กวัยรุ่นประมาณ 15 คน เดินเข้ามาในหมู่บ้านพร้อม"อาวุธมีด" จากนั้นได้ปาระเบิดตั้งแต่ในซอยจนถึงหน้าบ้านของตนประมาณ 4-5 ครั้ง จึงทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านได้รับความเสียหาย กระจกหน้ารถกับกระจกด้านขวาแตก ซึ่งก่อนหน้านี้เด็กวัยรุ่นที่เข้ามาก่อเหตุเคยมีเรื่องกับเด็กในหมู่บ้าน ตอนนี้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อยากให้ชีวิตมีความปลอดภัยมากกว่านี้

ก่อนหน้านี้เคยทราบข่าวว่าในอำเภอบางบัวทองมีเหตุปาระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตนเอง ถ้าหากกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาก่อเหตุตอนกลางวันหรือตอนที่มีคนพลุกพล่าน อาจจะมีคนได้รับผลกระทบหรือได้รับอันตราย จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยให้มากกว่านี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 22 มี.ค.65 เวลาประมาณ 00.30 น.ได้มีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุปาระเบิดที่หน้าบ้านของนายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จากนั้นวันที่ 24 มี.ค.เวลาประมาณ 22.00 น.ก็มีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกปาระเบิดใส่ร้านขายนม ที่ซอยวัดลาดปลาดุก โดยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริ เหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งล่าสุดวันนี้มีเหตุปาระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง 

จากพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุไม่ได้มีความเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเเต่อย่างใด ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุถึงมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองกันอย่างง่ายดายขนาดนี้ สังเกตุได้ว่าระยะเวลาผ่านไปเพียงเเค่ 1 อาทิตย์ กลับมีเหตุปาระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.บางบัวทองถึง 3 ครั้ง และส่วนมากยังเป็นเยาวชนเกือบทั้งหมดอีกด้วย แล้วชาวบ้านคนหาเช้ากินค่ำจะต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดผวากันอีกนานแค่ไหน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชนในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว สาโรจน์ สว่างศรี