"อัศวิน" เปิดใจครั้งแรก ขอกลับมาทำงานต่อ มั่นใจรู้จัก กรุงเทพฯ ดีที่สุด

พล.ต.อ. "อัศวิน" ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึกออนไลน์" หลังจากที่มีการประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปเมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมตัวลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่า ฯ กทม. โดยระบุว่า  การลาออกครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวลงสมัครผู้ว่ากทม. และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.) ซึ่ตนเองก็อยากมีเวลาในการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านทีมงาน และการวางแผนสำหรับการหาเสียงด้วย เป้าหมายหลักที่ตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าในครั้งนี้ เพราะอยากจะสานงานต่อที่เคยทำไว้ให้จบ ไม่ว่าจะเป็นการสานต่องานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคุณ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้านปรับปรุงระบบโครงสร้างเมืองที่ตนเองยังทำค้างไว้อยู่ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่ง ตนเชื่อว่ากรุงเทพ ฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

โดยเฉพาะด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งก่อนที่ตนเองจะมาดำรงตำแหน่งคนกรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียวเพียง 5.9 ตารางเมตรต่อคนเท่านั้น แต่ปัจจุบันคนกรุงเทพมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 7.3-7.4 ตารางเมตรต่อคน รวมไปถึงการสร้างโรงพยาบาลเพื่อคนกรุงเทพ โครงการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เหล่านี้ตนมีความตั้งใจว่าอยากกลับมาสานต่อให้เสร็จ เพราะตนคือผู้ที่รู้จักกรุงเทพฯ ที่ดีสุด เนื่องจากรุงเทพ ฯ เป็นเมืองที่มีโครงสร้างซับซ้อน ไม่ว่าจะด้านสังคมเมือง คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ นโยบายหลัก ๆ ที่ตนอยากจะทำจึงต้องเป็นนโยบายที่ทำเพื่อคนกรุงเทพฯ ทุกคน  ดังนั้นหากคนกรุงเทพ ฯ ให้โอกาสก็อยากจะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง 

พล.ต.อ."อัศวิน" กล่าวต่อว่า  ทั้งนี้หากถามว่ากดดันหรือไม่ที่ต้องลงสมัครทางกลางคู่แข่งที่เปิดตัวมาแล้วหลายคน ตนไม่ได้มีความรู้สึกกังวล หรือกดดัน เพราะมองว่าการเลือกคนเข้ามาบริหารเมืองนั้น ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ และที่ผ่านตลอดเวลา 5 ปี ตนมั่นใจว่าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กรุงเทพฯ ในหลาย ๆ ด้าน อีกทั้งตนไม่ใช่นักการเมือง แต่ตนเป็นนักปฏิบัติที่ดี และนักประสานงานที่ดี  อาจจะเขียนนโยบายไม่เก่ง แต่ตนมั่นใจว่าสามารถนำนโยบายต่าง ๆ มาขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นเป็นรูปแบบธรรมได้ ส่วนกรณีที่มีหลายคนมองว่า การการลงสมัครในนามกลุ่ม รักษ์กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ รวมไปถึงการทำงานสมัยที่ยังเป็นผู้ว่าฯ กทม. ทำให้ตนได้เปรียบคนอื่นนั้น ต้องแจงว่าที่ผ่านมาตนพยายามเต็มที่ เพื่อที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกรุงเทพ ฯ ไม่ได้หวังผลทางเมือง

ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นผู้ว่า ฯ กทม. ก็ต้องทำเพื่อคนกรุงเทพฯ ก่อน อีกทั้งแนวทางในการทำงานมีความสอดคล้องกับกลุ่มคนรักษ์กรุงเทพฯ อยู่แล้ว จึงตัดสินในลงสมัครเพื่อเป็นตัวแทน ส่วนนโยบายที่ชัดเจน รวมทั้งทีมงานที่จะเข้ามาร่วมทำงานจะมีแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. นี้ แต่เบื้องต้นวางแผนว่าอยากดึงคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ คนแก่ นักวิชาการ เข้ามาร่วมทำงานและวางแผนในการพัฒนากรุงเทพฯ ไปด้วยกัน  

"ย้อนไปเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว นโยบายต่าง ๆ ยังไม่มีใครที่สามารถนำมาสู่การปฏิบัติได้จริงผมเป็นคนที่นำนโยบายต่าง ๆ  มาทำให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคูคลอง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การส่งเสริมระบบการศึกษา เพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนในสังกัด กทม.  สิ่งที่ทำอยู่ตนอยากกลับมาทำต่อให้เสร็จ และจะพัฒนาโครงการ และนโยบายใหม่ ๆ เพื่อคนกรุงเทพ ฯ ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่ผมคือนักปฏิบัติ นักประสานงานที่ดี อย่าลืมว่าการบริหารกรุงเทพฯ นั้นจะเป็นจะต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย เพราะมีความเชื่อมโยงกัน กรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองที่มีโครงสร้างซับซ้อน ดังนั้นไม่มีใครรู้จักกรุงเทพฯ ดีเท่าผม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในสนามการเลือกตั้งจริงประชาชนคนกรุงเทพ ฯ คือผู้ที่ตัดสินใจ หากในอนาคตพลาดโอกาสที่จะกลับมาทำงาน ตนก็คงไม่ยุ่งกับการเมืองอีก"   พล.ต.อ. "อัศวิน" กล่าวทิ้งท้าย