โจ๋มือ "แทงอริดับ" คาปั๊มยอมรับผิดก่อเหตุซ้ำทั้งที่อยู่ระหว่างคุมประพฤติ

23 มี.ค.2565   เมื่อเวลา 13.00 น.  ที่ห้องสอบสวน  สภ.บางเสาธง ร.ต.อ.วิฑูล เพ็งบุบผา รองสารวัตรสอบสวน  นำตัว นายการ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายยุต (นามสมมุติ) เสียชีวิต ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนเทพารักษ์ กม. 24 ตำบลบางเสาธง  อำเภอบางเสาธง  จังหวัดสมุทรปราการ  เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มาสอบปากคำเพิ่มเติม ต่อหน้าทนายความและมารดาของผู้ก่อเหตุ เพื่อเตรียมสำนวนฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ ผัดแรกในวันพรุ่งนี้ 

 

 

โดยนายการ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ตนเองยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ แต่ยอมรับว่าก่อเหตุจริงตามที่ปรากฏในวงจรปิด ขณะเกิดเหตุตนเองและเพื่อนมาเจอฝ่ายคู่กรณีที่ปั๊มน้ำมันแล้วมีการมองหน้าจนเกิดการเขม่นกัน ต่างฝ่ายต่างตะโกนด่าและท้าทายกัน ตนเองจึงขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ท้ายรถของคู่กรณี จากนั้นเพื่อนจึงชักมีดพกที่เหน็บเอวมาด้วย ลงไปก่อเหตุ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ผู้เสียชีวิต ก็ชักมีดหัวตัดซึ่งเป็นมีดดายหญ้าออกมาจากเอวด้วยเช่นกัน ตนเองจึงชักมีดที่พกมาลงไปช่วยเพื่อน จนกระทั่งเกิดการต่อสู้กัน หลังเกิดเหตุพบว่าตนเองถูกฟันที่ข้อมือข้างซ้ายและหน้าขาซ้าย ส่วนเพื่อนถูกฟันที่แขนทั้งสองข้างรวมถึงขา จึงพากันกลับบ้านพักในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ แล้วนำรถกระบะไป โรงพยาบาล จนกระทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัว

 

 

 

ส่วนประเด็นเรื่องเสื้อสถาบันตนเองยอมรับว่าเป็นคนเอามาจากผู้ตายจริง หากถามว่าทำไมต้องพกมีดติดตัว นายการ (นามสมมุติ)  อ้างว่าตนเรียนอาชีวะจึงต้องพกมีดไว้ป้องกันตัว ส่วนในเรื่องคดีที่ร่วมกับเพื่อนร่วมกันใช้มีดฟันสองพี่น้องจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อต้นเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมานั้น ตนเองอยู่ระหว่างคุมประพฤติ และเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเองรู้สึกผิดและขอรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง นอกจานี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่ามีอะไรจากฝากบอกฝ่ายผู้ตายหรือไม่ เจ้าตัวระบุว่ายังไม่ขอพูดอะไรในตอนนี้ 

 

 

 

 

 

 

ด้านนางบุษกร  (สงวนนามสกุล)  อายุ 37 ปี มารดาของ นายยุต (นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนยอมรับที่ผ่านมาลูกชายก็มีเกเรบ้างและมักติดเพื่อน ก่อนหน้านี้ลูกชายมักบ่นให้ฟังว่าตนเองเคยถูกวัยรุ่นไล่ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จึงน่าจะเป็นเหตุที่ทำให้ลูกชายต้องพกมีดติดตัวไว้เช่นกัน

 

ช่วงนี้ ลูกชายของตนเองระหว่างปิดเทอมจึงได้ออกมารับจ้างทำงานในคลังสินค้าเพื่อเก็บเงินเรียน และกำลังจะได้รับเงินเดือนไปจ่ายค่าเทอมในวันที่ 24 ที่จะถึงนี้ แต่ก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน จึงอยากฝากถามคู่กรณีว่าทำไมต้องทำกันถึงตาย  ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนเองและครอบครัวจะเดินทางไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในที่เกิดเหตุ จากนั้นจะไปรับศพลูกที่ โรงพยาบาลรามา สมุทรปราการ 
         

 

 

ด้าน พ.ต.ท. จักรพงศ์ ขุนพหรม รองผู้กำกับสอบสวนสภ.บางเสาธง ระบุความคืบหน้าทางทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ก่อเหตุและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมหลักฐานและขอฝากขังผัดแรกในวันพรุ่งนี้ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อใคร อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายร่วมกันก่อเหตุจริง ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาทันที

 

 

 

สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าว  จ.สมุทรปราการ