เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการส่ง "สีดอโหนก" ช้างป่า จาก "อุทยานเขาอ่างฤาไน" กลับคืน หลังมาหากินในพื้นที่การเกษตร และทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต (มีคลิป)
22 มี.ค.2565 จากกรณี สีดอโหนก ช้างป่า จากอุทยาน เขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนมากออกมาหากินนอกเขตพื้นที่อุทยานฯ โดยเฉพาะรอยต่อของ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัย จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และได้เข้าไปหากินในย่านชุมชน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายไปหลายราย ช้างป่ายังได้มาอาศัยหากินอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถึงแม้ว่าจะมีการผลักดันให้กลับไปแล้ว แต่ช้างป่าตัวนี้ยังกลับมาอีกจนมาทำร้ายประชาชนที่เข้าไปเก็บของป่าจนเสียชีวิต 1 ราย เมื่อวันที่ 24 ก.พ 65 ที่ผ่านมา ต่อมา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 65 ช้างป่า ยังได้เข้ามาหากินบริเวณบ้านเรือนของประชนทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และยังไปเคาะหน้าต่างบ้านของชาวบ้านทำให้เจ้าของบ้านถึงกับช็อคร้องขอชีวิตคลานหนีเข้าไปกอดขารูปปั้น ร.5 ภายในบ้าน และยังคงใช้ป่าหนองป่าไผ่เป็นที่อาศัยหากินและหลับนอน
ชาวบ้านได้นำป้ายที่เขียนว่า "เขตช้างห้ามเข้า" ไปติดบริเวณป่าตรงข้ามป่าหนองไผ่ ที่ เจ้าสีดอโหนก อาศัยอยู่ตอนนี้ เพื่อเตือนชาวบ้านให้รู้ว่าข้างในป่านี้มีเจ้าสีดอโหนกอาศัยอยู่จะได้ไม่เข้าไปหาของป่าบริเวณนั้นเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน โดยช้างป่าตัวนี้ชื่อ "สีดอโหนก" สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านใน ต.เขาไม้แก้ว จนไม่กล้าออกทำไร่ทำสวน ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ชุดติดตามปลักดันช้างเขาอ่างฤาไน จะพยายามผลักดันเจ้าสีดอโหนกออกไปจากพื้นที่หลายครั้งแล้วก็ตาม เจ้าสีดอโหนกก็ยังวนเวียนกลับเข้ามาอีกเหมือนเดิน เจ้าหน้าที่ อบต.เขาไม้แก้ว และชาวบ้านทำได้แค่เพียงเฝ้าระวังและติดตามว่าเจ้าสีดอโหนกออกหากินอยูที่ไหนในหมู่บ้าน และได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านระวังเท่านั้น
ต่อมา นายประยูร สมโภชน์ นายก อบต.เขาไม้แก้ว นายสานิตย์ และนายสุนทร คมคาย ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว เข้ายื่นหนังสือต่อ ผอ.บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) "เรื่องการจับและขนย้ายช้างป่าและการแก้ไขปัญหาช้างในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี" เพื่อขอให้มีการนำ เจ้าสีดอโหนก ออกนอกพื้นที่เกรงว่าจะเกิดเหตุการซ้ำรอย
ต่อมา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 นางรุนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีปฏิบัติการแทนอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีหนังสือคำสั่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเรื่องการจับและขนย้ายช้างป่าและการแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ขออนุมัติจับและเคลื่อนย้ายช้างป่า ชื่อสีดอโหนก ซึ่งออกมานอกเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์และทำร้ายประชาชนเสียชีวิต บริเวณท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและช้างป่า จะดำเนินการจับและเคลื่อนย้ายช้างป่า สีดอโหนกออกจากพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อนำไปปล่อยภายในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และให้เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าดำเนินการติดอุปกรณ์ติดตามตัวสัตว์สัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ พฤติกรรมและประโยชน์ในการเฝ้าระวังและป้องกันช้างป่าออกนอกพื้นที่
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.65) เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเตรียมความพร้อมในการจับและเคลื่อนย้ายเจ้าสีดอโหนกช้างป่าจากเขาอ่างฤาไน โดยผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางเข้าพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างเขาอ่างฤาไน เพื่อให้การสนับสนุนการบินโดรนสำรวจค้นหาตำแหน่งของช้างเพื่อระบุตำแหน่งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าทำการยิงยาซึม
เบื้องต้นได้บินสำรวจในตำแหน่งป่าที่ทางเจ้าหน้าที่พบช้างครั้งล่าสุดแต่ยังคงไม่พบตัวช้างเพราะป่าบริเวณนั้นเป็นป่าต้นตาลทำให้มองไม่เห็นตัวช้าง กระทั่ง เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีได้ใช้โดรนบินสำรวจอีกครั้งพบเจ้าสีดอโหนก ยืนอยู่บริเวณป่ายูคาฯ ติดกับคลองน้ำ ม.5 บ้านสันดัน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บึรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากนั้นได้ใช้โดรนบินอยู่บริเวณช้างอยู่เพื่อทำให้ช้างนั้นได้เคลื่อนย้ายตัวข้ามคลองกลับเข้ามาบริเวณสวนดอกลีลาวดี หลังจากที่ใช้โดรนบินอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เจ้าสีดอโหนกก็ได้เดินเลาะตามป่ายูคาฯ ข้ามคลองเดินผ่านไร่มันเข้าไปบริเวณสวนดอกลีลาวดีตามที่เจ้าหน้าที่ได้คาดการณ์เอาไว้
โดยเจ้าหน้าที่ชุดยิงยาซึมได้ซุ่มอยู่บริเวณบ้านร้าง และเมื่อเวลา 18.01 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้ยิงยาซึมเข้าที่ตัวเจ้าสีดอโหนกด้วยกัน 2 ดอก ทำให้เจ้าสีดอโหนกวิ่งเตลิดข้ามถนนในไร่ไปบริเวณป่าหนองกระดิกนิ้วซึ่งเป็นป่าที่เจ้าสีดอโหนกได้ใช้อาศัยและได้ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ชุดยิงยาซึมได้เดินเท้าแกะรอยเข้าไปจนพบตัวเดินอยู่ในป่าไผ่ที่อยู่ตรงข้ามกับป่าหนองกระดิกนิ้ว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการยิงยาซึมเข็มที่ 3 และ 4 โดยใช้ระยะเวลากว่า 30 นาที ยาถึงจะออกฤทธิ์
จากนั้น จนท.ได้เข้าไปประเมินอาการของช้างแล้วพบว่าช้างนั้นได้อยู่ในอาการซึมจากฤทธิ์ยา ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปใส่ปลอกคอที่สัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) และได้นำรถแบ็คโฮเข้ามาเปิดช่องทางการเดินรถเพื่อให้รถ 10 ล้อ เข้ามาในพื้นที่เพื่อทำการขนย้าย โดยใช้เชือกผูกขา เจ้าสีดอโหนก ทั้ง 4 ขาไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่นั้นได้ช่วยกันดึงเท้าให้เดินขึ้นรถโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำเจ้าสีดอโหนกขึ้นรถสิบล้อได้สำเร็จ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายเจ้าสีดอโหนกไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี ได้อำนวยความสะดวกให้ตามเส้นทาง ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนประมาณ 4 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นายวีระ ขุนไชยรักษ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าสีดอโหนกเป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ออกหากินนอกพื้นที่ใน ม.4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่ผ่านมาได้ทำร้ายราษฎรเสียชีวิต อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้อนุมัติให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ประสานงานกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 รวมถึงหน่วยงานราชการข้างเคียง เพื่อเคลื่อนย้ายช้างสีดอโหนกกลับคืนสู่ป่าเขาอ่างฤาไน
โดยได้ส่งทีมสัตวแพทย์จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำหรับในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว และภาคราชการทุกส่วน ทางอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือกัน และฝ่ายทหารจากกองกำลังจันทบุรี-ตราด ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์เรื่องรถในการขนย้าย
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า สุพัตรา อาษ ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง