ข่าว

บก.ปทส. รวบสาวใหญ่เครือข่าย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DHL

20 มี.ค. 2565

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. รวบเครือข่าย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DHL และ หลอกลงทุนอ้างชื่อแอปช้อปปิ้งออนไลน์

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส.

 

บก.ปทส. รวบสาวใหญ่เครือข่าย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DHL

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์ สว.กก.1 บก.ปทส., ร.ต.อ.อดิศร ดรตะโกน    รองสว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นางสาวฐิติศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ตามหมายจับ ดังนี้

1.ศาลอาญา ที่ 449/2565 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” (สน.ห้วยขวาง)

2.ศาลจังหวัดตราด ที่ 26/2565 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ หรือร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนฉ้อโกงทรัพย์และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.ไม้รูด จ.ตราด)

สถานที่จับกุม บริเวณภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 เวลา 12.00 น. มีผู้ใช้โทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย  อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท DHL สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งแก่ผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายได้ส่งพัสดุไปยังปลายทางประเทศจีนและพัสดุดังกล่าวถูกตีกลับ  โดยภายในตรวจพบหนังสือเดินทางของบุคคลไม่ทราบชื่อ  จำนวน 8 เล่ม และบัตร ATM จำนวน 8 บัตร โดยระบุว่าถูกซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าผู้ชาย จำนวน 6 ชุด หากผู้เสียหายไม่ใช่ผู้ที่จัดส่งพัสดุดังกล่าวให้รีบดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงได้ทำทีอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายโดยการโอนสายให้บุคคลปลายสาย ซึ่งอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่

 

บก.ปทส. รวบสาวใหญ่เครือข่าย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DHL

 

ต่อมาบุคคลซึ่งอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่  ได้สอบถามผู้เสียหายว่า ติดต่อมาด้วยเรื่องอะไร ผู้เสียหายจึงเล่าเรื่องที่เจ้าหน้าที่ DHL แจ้งแก่ผู้เสียหายข้างต้นให้ฟัง จากนั้นผู้ที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำทีตรวจสอบชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนของผู้เสียหาย และเแจ้งแก่ผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายมีส่วนพัวพันการกระทำผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการอายัดเงินในบัญชีของผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อดำเนินการตรวจสอบ หากไม่พบการกระทำผิดใดใดจะดำเนินการโอนเงินคืนแก่ผู้เสียหายในภายหลัง ทั้งนี้เป็นการตรวจสอบในทางลับ บังคับพูดคุยขู่เข็ญไม่ให้วางสายโทรศัพท์เพื่อไม่ให้สามารถปรึกษาใคร กดดัน ข่มขู่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พร้อมแสดงภาพถ่ายการจับกุมชายคนหนึ่งทางแอปพลิเคชันไลน์โดยอ้างว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ร่วมกระบวนการกับผู้เสียหาย และซัดทอดว่าได้ว่าจ้างผู้เสียหายให้เปิดบัญชีม้าให้ โดยตกลงค่าจ้างกันที่ 12,000 บาท

จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ปฏิเสธว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับคนร้าย และไม่เคยรู้จักคนร้ายมาก่อน  ซึ่งผู้ที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวได้บอกกับผู้เสียหายว่าให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายหากไม่พบการกระทำผิดจะดำเนินการคืนเงินที่โอนให้ในภายหลัง โดยคนร้ายแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นางสาวฐิติศรี(สงวนนามสกุล) เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ทำการโอนเงินจำนวนเงิน 147,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารดังกล่าว ซึ่งต่อมาทราบว่าถูกหลอกทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวมรวบพยานหลักฐาน และศาลได้อนุมัติหมายจับ

 

จากการตรวจสอบพบว่าได้มีผู้เสียหายรายอื่นแจ้งความไว้ที่ สภ.ไม้รูด จ.ตราด เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2565 สูญเงินจำนวน 110,000 บาท โดยคนร้ายหลอกให้ทำภารกิจใน shopee (ปลอม), ทำยอดขาย, กดไลก์เพจเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าจะได้ค่าคอมมิสชันจากการสำรองจ่ายในการทำภารกิจในช็อปปิ้งออนไลน์ก่อน เมื่อถึงเวลาจะถอน ก็จะให้ทำภารกิจต่อไปเพื่อที่จะสามารถถอนได้ และมีการให้ฝากในเวลาเท่านั้น โดยอ้างว่าหากฝากไม่ทันหรือทำภารกิจไม่สำเร็จจะไม่สามารถถอนได้ จะต้องรอจนร้านค้าปิดยอด เมื่อถึงกำหนดหรือถ้าถอนต้องเสียค่าปรับ จึงเชื่อว่าถูกหลอก

นอกจากนี้พบว่ามีการเตือนภัยไว้ในสื่อออนไลน์ จากการที่ถูก นางสาวฐิติศรีฯ หลอกโอนเงิน ดังนี้

​วันที่ 27 ธ.ค.2564 ผู้เสียหายสูญเงินจำนวน 33,900 บาท พฤติการณ์ หลอกให้ทำภารกิจใน shopee, ทำยอดขาย, กดไลก์เพจเฟซบุ๊ก

​วันที่ 28 ธ.ค.2564 ผู้เสียหายสูญเงินจำนวน 16,000 บาท พฤติการณ์ หลอกให้ทำภารกิจใน shopee, ทำยอดขาย, กดไลค์เพจเฟซบุ๊ก

​วันที่ 1 ม.ค.2565 ผู้เสียหายสูญเงินจำนวน 14,000 บาท พฤติการณ์ หลอกลงทุนกับบริษัท จีเอเบิล หลอกให้โอนเงินเพิ่ม เพื่อจะเอาเงินทุนคืน เมื่อลงทุนไปจะถอนเงินไม่สามารถถอนได้

 

จากพฤติการณ์ของคนร้ายสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อสูญเงินหลายบาท อีกทั้งยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.1 บก.ปทส. ทราบว่า ในวันที่ 18 มี.ค.2565 นางสาวฐิติศรีฯ ผู้ต้องหา เดินทางมาบริเวณมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขนแขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร “ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำการของ บก.ปทส.” ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ปทส. จึงได้ไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ต่อมาเวลา 15.40 น. สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป