"45ปีอสม." รัฐบาลเชิญชวนคนไทยส่งกำลังใจให้ "อสม." และ อสส. เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ "อนุทิน" รองนายกรัฐมนตรี ย้ำแผนเสริมศักยภาพ "หมอคนที่1" เพิ่มความเข้มแข็งระบบดูแลสุขภาพคนไทย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "45ปีอสม." เนื่องจากวันที่ 20 มี.ค. ของทุกปีเป็นวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ รัฐบาลขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ "อสม." และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครหรือ "อสส." ทั้ง 1,050,306 คน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาโดยต่อเนื่อง
ทั้งในช่วงเวลาปกติ อสม.และอสส. คือกลไกสำคัญในการช่วยดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในขั้นปฐมภูมิ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ป้องกันโรคตามฤดูกาลแก่ประชาชนจนถึงระดับครัวเรือน และเมื่อเกิดโรคระบาดไม่ว่าจะเป็น โรคซาร์ส ไข้หวัดนก
และล่าสุดโควิด19 อสม.และ อสส. ก็คือบุคลากรด่านหน้าที่ทำหน้าที่ทั้งการคัดกรอง ให้คำแนะนำและดูแลคนนหมู่บ้านและชุมชนอย่างใกล้ชิด
อสม.และ อสส. สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทาการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนระบบสาธารณสุขไทยได้รับการยกย่องในระดับโลก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ย้ำถึงนโยบาย ที่จะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขตั้งแต่ฐานรากตามโครงการคนไทยมีหมอดูแล 3 คน
โดยมี อสม. เป็น "หมอคนที่1" เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) เป็น "หมอคนที่2" และแพทย์ที่โรงพยาบาลเป็น "หมอคนที่3"
โดยกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายการเพิ่มความชำนาญของเจ้าหน้าที่ อสม. ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อให้ระบบการดูแลสุขภาพคนไทยมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
โดยล่าสุดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสถาบันพระบรมราชชนกได้มีโครงการพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพ อสม. ให้เข้าศึกษาหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 3,000 คน หลักสูตรระยะเวลา 1 ปี เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของ "หมอคนที่1" ให้มีความรู้ทั้งไปประกอบอาชีพและดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้ดียิ่งขึ้น
“รองนายกรัฐมนตรีย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการดูแลขวัญกำลังใจของพี่น้อง อสม. ทั้งการสนับสนุนค่าเยียวยา ค่าเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์โควิด19 และที่รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นต่อไปคือการพัฒนาศักยภาพของ อสม. ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อการดูแลสุขภาพของคนไทยที่เข้มแข็งตั้งแต่ระดับฐานราก” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับความเป็นมาของ อสม.ในประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ในปี พ.ศ. 2520 จึงเกิดโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พื้นที่ทดลองใน 20 จังหวัด ก่อนจะขยายพื้นที่ไปทั่วประเทศจนกลายเป็นกลไกความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขของประเทศ
และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ อสม. คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2536 จึงอนุมัติให้วันที่ 20 มี.ค. ของทุกปี เป็นเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อมีกิจกรรมยกย่องเชิดชูเกียรติต่อความเสียสละและเกิดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ อสม. เป็นประจำทุกปี
สำหรับเหตุผลที่เลือกวันที่ 20 มี.ค. นั้นเนื่องจากตรงกับวันที่รัฐบาลได้บรรจุโครงการสาธารณสุขมูลฐานแห่งชาติเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาการสาธารณสุขแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20มี.ค.2522
ข่าวที่เกี่ยวข้อง