จับ "สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์" ตบตาตร.ใช้รถขนส่งเอกชนขนของเถื่อนจากชายแดน

18 มี.ค.2565  พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รอง ผบช.ภ.2)  และ รอง ผอ.ศปลป.ภ.2, พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว. สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.จรูญ เปรมกระโทก สว.สส.ภ.จว. สระแก้ว และชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.จว. สระแก้ว ร่วมกันจับกุมตัว นายเอกรักษ์  (สงวนนามสกุล)  อายุ 38 ปี  พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์บรรทุก ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน  2ฒส-114 กรุงเทพมหานคร  จำนวน 1 คัน และของกลางสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อีก จำนวน 233 กล่อง เป็นสินค้าแบรนด์เนม อาทิ รองเท้า , นาฬิกา , กระเป๋า ,หน้ากากอนามัย โดยจับกุมได้บริเวณถนนสุวรรณศร 33 หน้าศาลากลางจังหวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว 

 

 

 

 

 

 

 

 

พ.ต.อ.จตุรภัทร เปิดเผยว่า ศูนย์ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรภาค 2  สั่งการให้เข้มสกัดขบวนการขนสินค้าผิดกฎหมาย โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สระแก้ว ทราบว่า จะมีการลักลอบขนส่งสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ที่ลักลอบนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา โดยจะนำไปแพ็คเป็นกล่องส่งผ่านรถขนส่ง จากพื้นที่ตลาดโรงเกลือเพื่อนำเข้าพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงเฝ้าติดตาม

 

 

 

 

ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรถเป้าหมาย จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสัญญาณให้หยุดรถ เพื่อตรวจสอบพบกล่องพัสดุของบริษัทขนส่งเอกชน  ภายในเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด และที่หน้ากล่องไม่มีการระบุชื่อ นามสกุล เบอร์ ผู้จัดส่ง ซึ่งผิดปกติจากการขนส่งทางไปรษณีย์ทั่วไป 

 

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ,ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร (ตามมาตรา 242)” โดยผู้ต้องหาขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

 

 

 

 

 

 

 

นายเอกรักษ์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเป็นลูกจ้างของบริษัทรับส่งสินค้า มีสำนักงานตั้งอยู่กรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน เพิ่งมารับขนส่งสินค้าจากขนส่งเอกชน  ที่สาขาอรัญประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2565 เนื่องจากคนก่อนติดโควิด-19 ซึ่งจะรับขนส่งสินค้าจากสาขาอรัญประเทศ ไปส่งยังต้นทางศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย  จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนสายรัด เคเบิ้ลไทร์ ของกลาง นั้น ใช้เพื่อเอาไว้ให้พนักงานที่คลังกระจายสินค้าที่ จ.อยุธยา รัดล็อกท้ายรถตอนนำสินจากคลังอยุธยา กลับมายังสาขาอรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนและทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายเอกรักษ์  พร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

นายยุทธนา  พึ่งน้อย     ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว