"รังสิมันต์" รับทราบข้อหา "หมิ่นบิ๊กป้อม" ปมอภิปรายไม่ไว้วางใจ "ป่ารอยต่อ"

17 มี.ค.2565  ที่ สน.บางขุนนนท์  นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ หลังถูกออกหมายจับ ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท โดยการโฆษณา จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อต้นปี 2563

 

นายรังสิมันต์  เปิดเผยว่า การเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เป็นการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายจับ และเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐอาศัยช่องว่างตรงนี้ในการกระทำการบังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบ ซึ่งการออกหมายจับในครั้งนี้เนื่องมาจากตนได้อภิปรายเรื่องปัญหามูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อช่วงต้นปี 2563 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่อมาพบว่าถูกตำรวจนครบาล​บางขุนนนท์​ ออกหมายเรียก 2 ครั้ง คือ วันที่ 23 ก.พ. และ วันที่ 5 มี.ค. เพื่อให้ไปพบกับตำรวจในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งในช่วงเวลาที่มีการออกหมายเรียกอยู่ในระหว่างสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ในสภาจึงยังไม่สามารถเข้าพบเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมส่งทนายความส่วนตัวชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไปแล้วว่า ซึ่งพนักงานสอบสวนก็รับปากว่าจะมีการถอนหมายก่อน  แต่แล้ว ก็มีการออกหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไม่ถึงมีการออกหมายเรียก และหมายจับในช่วงที่กำลังอภิปรายเรื่องตั๋วช้าง การค้ามนุษย์ นอกจากนี้คดีดังกล่าวยังมีโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี และตนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่กลับถูกออกหมายจับ  

 

นายรังสิมันต์  บอกอีกว่า ตามกระบวนการหากวันนี้ มีการส่งฟ้องกับพนักงานอัยการ มีการสั่งฟ้อง ถ้าให้ประกันตัวตนก็สู้ไปตามกระบวนการ แต่หากไม่ให้ประกันตัว จะมีผลกับตำแหน่งความเป็น ส.ส. และการทำหน้าที่ในสภาอย่างแน่นอน การบังคับใช้กฎหมายในลักษณะนี้มองว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบ ไม่ใช่แค่ตน แต่กับพี่น้องประชาชนที่มีความเห็นต่างก็ถูกดำเนินคดีไปตามๆกัน พี่น้องบางคนที่ถูกดำเนินคดี มีการเข้ารายงานตัวไม่มีประวัติเสียแต่กลับถูกสวมกำไลอีเอ็ม มันสะท้อนให้เห็นการทำงานของกระบวนการยุติธรรม 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ กับ นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่าอยากจะเข้าไปถามถึงกระบวนการขั้นตอนการออกหมายจับในครั้งนี้  อยากถามว่าถ้าวันนี้คู่ขัดแย้ง หรือโรมไม่ได้เป็นพูดพาดพิงไปถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ การบังคับใช้กฎหมายจะออกมาในรูปแบบนี้ไหม

 

ด้านนาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเปิดเผยว่า วันนี้หลังจากรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนแล้ว คาดว่า จะส่งตัวไปให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาส่งฟ้อง   ส่วนทีมทนายความ เตรียมหลักทรัพย์ไว้ หากจำเป็นต้องใช้ในการประกันตัว เพื่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม ต่อไป

 

 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ได้คุมตัว นายรังสิมันต์ ส่งอัยยการศาลแขวงตลิ่งชัน โดยมีมวลชนจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อให้กำลังใจนายรังสิมันต์ ตั้งแต่ช่วงเช้า เดินทางตามไปที่ศาล เพื่อรอฟังว่าอัยการจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่