ตำรวจ ปคบ. ร่วมกับ สารวัตรเกษตร บุกตรวจโกดังขาย "ปุ๋ยอินทรีย์" ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่มีการขึ้นทะเบียน หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน มูลค่าความเสียหาย 2.5 ล้านบาท
17 มี.ค.2565 ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการเสนอขายปุ๋ยอินทรีย์ ผ่านทางออนไลน์ โดยที่กระสอบมีข้อความระบุว่าเป็นวัสดุอินทรีย์ปรับปรุงดิน แต่มีการนำมูลสัตว์มาแปรสภาพโดยการอัดเป็นเม็ดบรรจุกระสอบจำหน่าย การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น วีดีโอ เอกสารการโฆษณา ระบุว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ. 2518 โดยมีสถานที่ผลิต อยู่ใน ต.วังไผ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
ต่อมาเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.2565) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 2 บก.ปคบ. พร้อมด้วย สารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตรร่วมกันเข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตดังกล่าว โดยมีนายยุทธนา (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแล นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบ
1.ผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าปุ๋ยอินทรีย์ บรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 2,556 กระสอบ (127.8 ตัน)
2.วัตถุดิบ รวม 136 ตัน
3.อุปกรณ์การผลิต รวมจำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 2,500,000 บาท
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบต้องสงสัยว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ขึ้นทะเบียน ไว้จึงได้ตรวจยึดอายัดไว้ในที่เกิดเหตุและจะได้ ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด มาตรา 30(5), 71 วรรคหนึ่ง, 72/4 วรรคสอง (โทษหนึ่งในสี่ ของโทษ 1 ปีถึง 5 ปีหรือปรับตั้งแต่สี่หมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) พ.ร.บ.ปุ๋ย 2518 แก้ไข 2550
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรกรมวิชาการเกษตรได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กองวิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตกรมวิชาการเกษตร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม บก.ปคบ.ฝากเตือนเกษตรกรที่ซื้อปุ๋ยเคมีไม่ได้ขึ้นทะเบียนที่ไม่ได้ผ่านการตรวจคุณภาพจากกรมวิชาการเกษตร อาจทำให้ผลผลิตของเกษตรกรไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ควรจะได้ และเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เนื่องจากได้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารไม่ครบถ้วน อาจจำเป็นจะต้องใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เพิ่มขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง