ข่าว

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หลวงพี่อุเทน" เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ตอบคำถามสังคม เหตุผลที่บวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพราะตั้งใจจะช่วยเหลือแตงโม นิดา ลูกศิษย์ที่รู้จักกันมากกว่า 10 ปี เพื่อช่วยค้นหาความจริง และตั้งใจดับร้อนให้ทั้งสองคนเย็นลง ยันไม่ได้รับเงินจากใคร

จากกรณีที่ 2 ผู้ต้องหาคดี "แตงโม นิดา" เดินทางเข้าไปรับการบวชพราหมณ์ ที่วัดท่าไม้ โดยกำหนดการเดิมจะบวชที่วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาครแต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่บวช ไปเป็นธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดย พระญาณวิกรม หรือ "หลวงพี่อุเทน" เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ พร้อมด้วยหลวงพี่แซมผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ได้เดินทาง มาออกรายการ โหนกระแสทางช่อง 3

โดย "หลวงพี่อุเทน" ยืนยันว่า "ปอ" และ "โรเบิร์ต" ได้ทำการบวชแล้ว ตั้งแต่เวลา 8:00 น ที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ซึ่งเป็นสถานที่อยู่ในป่า มีความสงบ วิเวก ปราศจากความเจริญทั้งหลาย ส่วนเหตุผลที่มีข่าวว่าบวชวัดท่าไม้ในตอนแรกแล้วย้ายไปที่สวนผึ้ง นั้น "หลวงพี่อุเทน" เปิดเผยว่า เนื่องจากเดิมทีจะบวชที่วัดท่าไม้ พอเช็คข้อมูลแล้วพบว่าบวชไม่ได้กับคนที่มีคดีความ มีข้อต้องห้ามตามเถรสมาคม เลยเปลี่ยนรูปแบบการบวชเนื่องจากทั้งสองคนมีความตั้งใจที่จะบวช จึงให้มาบวชพราหมณ์ เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่จีวร แต่อยู่ที่ความตั้งใจที่บริสุทธิ์ เลยหาทางออกให้ได้บวชให้กับโยมแตงโม อาตมาไม่ได้บอกใครว่าโยมแตงโมเป็นลูกศิษย์ที่วัดของอาตมาด้วย รู้จักกันมาตั้ง 10 กว่าปีแล้ว คนที่จัดงานศพให้กับโยมแตงโม คือโยมทิดเอ โยมอั้ม ก็เป็นลูกศิษย์ที่วัดก็ได้บอกให้จัดงานให้โยมแตงโมให้ดีที่สุดให้งดงามที่สุดนั่นคือความประสงค์

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง

 

 

ส่วนการเข้ามาขอบวชหลวงพี่แซม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีข้อความเข้าในโทรศัพท์หลวงพี่แต่ไม่เห็นข้อความดังกล่าว จนประมาณต้นเดือนมีนาคม ถึงได้รู้ว่าโยมปอกับโยมโรเบิร์ตไปที่วัดท่าไม้ โยมปอกับโยมโรเบิร์ตไปกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่รู้จักกันมา 10 กว่าปีวันนั้นหลวงพี่ไม่ได้เดินทางไปด้วย ปกติหลวงพี่จะอยู่ที่ชลบุรีและได้มีการพูดคุยกับพระอาจารย์อุเทน มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ทั้งสองคนพูดว่าไปวัดไหนวัดไม่รับบวชไม่มีที่ไหนบวชให้ผมเลย พระอาจารย์ก็เลยให้บวชไม่เป็นไรเดี๋ยวบวชที่นี่ เนื่องจากโยมแตงโมเป็นลูกศิษย์มากกว่า 10 ปี หลวงพี่แซมเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วเคยให้คำแนะนำโยมแตงโมไปว่าอย่าแต่งงาน อย่าเพิ่งแต่งงานเดี๋ยวจะเกิดเรื่องจนแตงโมแต่งงานจนเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทราบกัน

 

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง



หลวงพี่แซมกล่าวด้วยว่า ขอยกเป็นวิทยาทานจริงๆในคดีใหญ่ในเมืองไทยคนที่เดือดร้อนที่มีปัญหาตามที่เราได้ยินข่าวทั้งหมดหลายๆท่านก็มีกรณีอย่างนี้เช่นเดียวกัน เช่น ตอนบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ถูกปลดออกจากตำแหน่ง พระอาจารย์กับหลวงพี่ก็อยู่ด้วยกันตอนที่บิ๊กโจ๊กมีความทุกข์ พระอาจารย์แนะนำให้ไปบวชที่อเมริกา 1 เดือนเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะไปแก้ปัญหาอะไร อีกท่านคือ ท่านวิระชัย ทรงเมตตา อดีต รอง ผบ.ตร.ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง พระอาจารย์ 2 ท่านก็อยู่ด้วยกัน เพื่อให้หายจากทุกข์ก่อน โดยวัตถุประสงค์คือให้สงบก่อน เช่นเดียวกันหากเราจะเอาความจริงจากใครสักคน อยากได้ความจริงแต่ความจริงจะกระจ่างได้ก็ต้องทำให้เขาเป็นพวกเดียวกับเราก่อน ให้รู้สึกว่าสบายใจก่อน ต้องเกิดความไว้ใจกับเราก่อนเขาถึงจะพูด อันนี้คือหลักการแรกถือเป็นกุศโลบาย คิดว่าเขาหนีร้อนเพื่อที่จะพึ่งเย็นบวชให้เย็นก่อนเพื่อความจริงจะได้ปรากฏออกมา

 

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง

 


ทั้งนี้ขณะนี้ทั้งปอและโรเบิร์ตตอนนี้โดนยึดโทรศัพท์หมด วัดยึดเก็บเอาไว้ เขาจะไม่รู้ข้อความที่เราคุยกันตอนนี้ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถได้ความจริงกับเขา


สำหรับสาเหตุที่ไม่บวชที่วัดท่าไม้นั้น "หลวงพี่อุเทน" เปิดเผยว่า ถ้ายังบวชที่วัดท่าไม้จะทำให้ไก่ตื่นจะไม่สามารถเอาความจริงจากโยมปอและโรเบิร์ตได้ เพระคนเยอะ ไม่สงบ ถ้าเราฉุกละหุกอยู่กับคนจะไปสอนกับสองคนนั้นอย่างไร จะเอาความจริงจากไหนมา นั่นคือเหตุผลที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่ฝึกจิต แล้วเดี๋ยวอาตมาจะลงไปอยู่ในป่าช้าในถ้ำกับทั้งสองคนด้วย


สาเหตุที่ต้องปลงผมนั้น เพราะสองคนนั้นตั้งใจจะบวชพระในมุมของเขา เขาจะรู้สึกว่าการโกนหัวยอมสละผมให้รู้สึกคล้ายกับการบวชให้มากที่สุดตามความปรารถนาของเขา เดิมทีแรกจะไม่ปลงก็เลยถามเขาว่าจะสละผมได้ไหมเขาบอกว่าสละได้ ได้ ทางโรเบิร์ตก็สละได้บอกว่าตั้งใจรักษาศีลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับคุณแตงโมอย่างเต็มที่ โดยทั้งคู่จะต้องตั้งแต่กินข้าวมื้อเดียว ไปนอนในป่าช้า นอนในเมรุทั้งคู่

 

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง


ด้านหลวงพี่แซม กล่าวด้วยว่า ต้องดูว่าในช่วงที่บวชจะได้อะไรบ้างบวชอย่างน้อยที่สุด 15 วัน ต้องการให้มาอยู่ที่วัดก่อนที่จะมีการปิดคดี ถ้าปิดคดีไปแล้วจะไม่สามารถเอาความจริงไปใช้ประโยชน์ได้ จึงเลือกวันที่ 16 นี้เป็นวันที่ให้บวชเพราะบวชหลังจากปิดคดีไปแล้วก็ถือว่าจบ แต่ถ้าบวชก่อนหน้านี้กระแสแรง ทุกอย่างก็ยังร้อนมันยังทำอะไรไม่ได้


"หลวงพี่อุเทน" กล่าวว่านี่ก็เหมือนตำรวจช่วยกู้สถานการณ์ช่วยสืบค้นคดีไปด้วย ถ้าอาตมาไม่สนิทกับเขา ไม่ใช่อาจารย์เขา เขาคงไม่เล่าความจริงให้อาตมาฟัง



สำหรับประเด็นที่สังคมมองว่าทั้งสองคนนั้นให้เงินวัดหรือเปล่าถึงยอมบวชให้ หลวงพี่แซม ยืนยันว่าไม่ได้ให้เลย ถ้าเขาคิดนั่นคือมุมของสังคม สิ่งที่เราเสียไปเสียมากกว่าอยู่แล้ว เพราะถูกด่าอยู่แล้วว่าเข้าข้างผู้ร้าย แต่เราคิดว่าถ้าเราได้ความจริงคุ้มมากกว่าเสีย เสียไม่เป็นไรแต่สังคมได้รับความจริงความกระจ่างย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

ถ้าถามว่าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทั้งสองคนจะพูดความจริงหรือไม่ "หลวงพี่อุเทน" กล่าวว่า อาตมาปกติยึดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่แล้วคือได้ยินอะไรมาอย่าเพิ่งเชื่อ จะทำให้เห็นคดีหรือเห็นไม่คดีก็ว่ากันไป เขาก็มีคดีก็ว่ากันตามกฎหมาย และระหว่างที่เขามีจิตใจที่จะทำความดีเราก็ต้องให้โอกาส เขาร้อนมาแทนที่จะให้เขาหนีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวหาทางหนีไปต่างประเทศ เพราะคนมีเงินถ้าจะหนีก็หนีได้ สู้อาตมาดึงเขากลับมาอยู่ตรงนี้ดีกว่าไม่ต้องหนีไปไหนให้สู้กับความเป็นจริงความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ ไม่มีใครรู้ความจริงเท่ากับตัวของเขาเองนั่นคือสิ่งที่อาตมาคิด

ยกตัวอย่างที่คนมีเงินมากกว่านี้ คนที่รวยกว่านี้ยังหนีคดีไม่พ้นเลย ยังหนีกรรมไม่พ้นเลย กรรมทำมาแล้วต้องใช้ มันหนีไม่ได้ มันไม่ได้ช่วยให้เขาหนีกรรม เราแค่ดึงให้เขาเย็นลงสงบลง ให้เขามีที่พึ่งไม่ให้เขาเตลิดเปิดเปิง และต้องการช่วยบ้านเมืองหาความจริงของคดีด้วย

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง

หลวงพี่แซม เปิดเผยอีกด้วยว่า รู้จักโยมปอมา 16 ปีแล้วรู้จักกันมาในฐานะที่เป็นโจทย์กันหลวงพี่แซมเคยตามไล่ยิงโยมปอที่พัทยาตอนสมัยเป็นฆราวาส จำได้ตอนที่เจอกันตอนเตรียมตัวบวช 3-4 วันที่แล้ว เล่าท้าวความกันแล้วคุยกันถึงจำได้ เขายอมคุกเข่ากราบหลวงพี่แซม



หลวงพี่แซม กล่าวอีกว่า วิธีการทำงานอาจจะไม่ถูกใจญาติโยม เพราะถ้าหากคนทำผิดหลายคนอาจจะยังไม่รู้ความจริงแม้กระทั่งภรรยาพ่อแม่หรือแม้คนที่พามา เพราะไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดพยานหลายอย่างยังไม่ชัด จึงมีวิธีเดียวก็คือให้เขาพูดความจริงที่ออกมาจากปาก แต่กรรมวิธีให้เขาพูดความจริงเราก็ต้องเข้าใจกระบวนการสอบสวนก่อนว่าจะต้องทำยังไง


"หลวงพี่อุเทน" ยอมรับว่า ในใจลึกๆ ก็สงสัยในคดีแต่ต้องหาความจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ จะช่วยให้ได้ ช่วยให้ดีที่สุดถ้าสุดแล้วก็คงต้องปล่อยไปตามนั้น

ส่วนกรณีที่สังคมไม่เห็นด้วยหลวงพี่แซมบอกว่าต้องให้เวลาทุกอย่างเป็นเครื่องพิสูจน์ บวชหรือไม่บวชไม่สำคัญ แต่จะทำอย่างไรให้เขาเข้ามาอยู่ใกล้เรามากที่สุดเพื่อให้เราให้เขามีทัศนคติที่ดีมีความเย็นกายสบายใจขึ้น


"หลวงพี่อุเทน" บอกอีกว่า ทีแรกที่รู้ว่ากฎหมายห้ามบวช ทั้งสองคนยังมาขอโทษอาตมาว่าไม่น่าทำให้อาตมาลำบาก และบอกว่าบวชไม่ได้ก็ไม่บวชก็ได้ไม่เป็นไร หลวงพี่บอกว่าอย่าเพิ่งท้อ วันนี้ก็บวชและให้สละผมไปเลยอุทิศเลยโกนผมบวชซะและตั้งใจปฏิบัติแล้วจะได้อยู่กับอาตมา รักษาศีล 8 เดินถอดรองเท้าตามพระบิณฑบาต เดินธุดงค์ เดินข้ามเขา ตอนกลางคืนต้องนอนใต้ต้นโพธิ์ริมน้ำ ในระหว่างนั้นให้ฉันข้าวมื้อเดียวเนื้อสัตว์ก็ไม่มีและนอนในถ้ำในถ้ำมีแต่โลงศพ

ส่วนเรื่องแตงโมนับถือศาสนาคริสต์ทำไมเป็นลูกศิษย์หลวงพี่อุเทน หลวงพี่ให้คำตอบว่า ลูกศิษย์หลวงพี่อุเทนมีหลายศาสนา คริสต์ อิสลาม ศาสนาไม่ได้เครื่องกีดกั้นระหว่างเราแต่ศาสนาเป็นหลักของการทำความดีศาสนาไหนก็เหมือนกันศาสนามีเอาไว้ให้คนทำความดีไม่ทำความชั่วก็เหมือนกัน


ขณะนี้ ทั้งปอและโรเบิร์ต กำลังภาวนาสวดมนต์เตรียมเดินทางขึ้นเขาโดยมีพระอาจารย์อีกรูปที่เก่งวิปัสสนากำลังพาเดินขึ้นเขา

"หลวงพี่อุเทน" เปิดใจบวชให้ "ปอ-โรเบิร์ต" เพื่อช่วย "แตงโม" ค้นหาความจริง

ถ้าถามว่ากลัวไหมที่สังคมมองว่าทางวัดกระอักกระอ่วนใจกับคำถามของสังคมที่ตั้งไว้หรือไม่ว่าทำไมทางวัดทำแบบนี้ หลวงพี่แซมบอกว่ามีลูกศิษย์ส่งข้อความมาให้กำลังใจพระอาจารย์ว่าเข้าใจพระอาจารย์ ทุกคนเข้าใจพระอาจารย์ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะการทำงานของพระอาจารย์เป็นแบบนี้มาโดยตลอด ยอมโดนสังคมโดนด่า และสุดท้ายให้ความจริงมันปรากฏหลักฐานอยู่ที่ความจริง เมื่อวันไหนความจริงเกิดขึ้น เราก็จะรู้เองว่าสิ่งที่ทำทำเพื่ออะไร บวชหรือไม่บวชไม่สำคัญแต่ถ้าเขามาอยู่ใกล้กับเรา เราสามารถทำอะไรในสิ่งที่เราต้องการก็ได้ เราต้องการมอบสิ่งดีๆให้กับเขา ต้องการความจริงที่เขาอาจจะปกปิดอยู่ หรือเขายังพูดไม่หมดเมื่อเขาสบายใจเกิดความไว้ใจเขาจะบอกเรา จะไม่บอกว่าให้เขาไปบอกตำรวจหรือนักข่าวแต่บอกว่าถ้าทำแบบนี้จะสบายใจกว่าเพราะถ้าโกหกคนก็จะต้องโกหกไปจนวันตายเจ็บปวดไปยังวันตาย


สำหรับกรณีที่บางกลุ่มจะเสื่อมศรัทธากับวัดท่าไม้หลวงพี่อุเทน กล่าวว่าไม่กังวลใจเพราะเจตนาทำเพื่อลูกศิษย์ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง ทำไปโดยที่ไม่ได้ผลประโยชน์ส่วนตัว คือต้องการทำความจริงให้กระจ่างนั่นคือเจตนา และจะช่วยแตงโมให้ถึงที่สุดให้มากที่สุด ถ้าช่วยให้คลี่คลายคดีได้จะช่วยให้มากที่สุดถ้าเป็นความจริง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ