สุดทน ร้องเพจดัง ถูก"ป้าสะใภ้"ปีนรั้วทุบกระจกบ้าน ปา"อุจจาระ"ใส่รถ
หนุ่มสุดทน โพสต์ร้องเรียนเพจดัง ถูกป้าสะใภ้คุกคาม ปีนรั้วทุบกระจกบ้าน ปา"อุจจาระ"ใส่รถยนต์ ด้าน ตร.ไม่รับแจ้งความ ระบุ ไม่ใช่เจ้าของบ้าน
เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 เพจ"อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3" ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอ กรณีหญิงสาวสูงวัยปีนรั้วเข้าไปในบ้านญาติ แล้วใช้ค้อนทุบที่"กระจกแตก"หลายบานทำให้ได้รับความเสียหาย และถูกเอา"อุจจาระปาใส่รถ"อีกด้วย หลังเกิดเหตุเรื่องแจ้งความหลายรอบแต่เรื่องเงียบ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.พ.65 เวลาประมาณ 17.35 น.ที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 5/4 หมู่8 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วสูงประมาณ 2 เมตรล้อมรอบตัวบ้าน จากการตรวจสอบรอบบ้านพบกระจกหน้าต่างข้างบ้านถูก"ทุบแตก"จำนวน 6 บาน กระจกหน้าต่างหลังบ้านอีก 4 บาน นอกจากนี้ยังพบ"เศษกระจก"ตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง โดยทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนางนงนุช คำเปลว หรือ เล็ก อายุ 52 ปี มีศักดิ์เป็น"ป้าสะใภ้"ของนายนิยม ละวะกร ซึ่งเป็นผู้เสียหาย
ด้าน นายนิยม ละวะกร อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ผู้โพสต์และผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเพราะความไม่เข้าใจกันมากกว่า เลยขัดใจกันเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้ โดยเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ย.64 โดยตัวเองถูก"คุกคาม"มาโดยตลอด บางครั้งถูก"ปาอุจจาระ"ใส่รถด้วย แต่เรื่องที่ถูก"ทุบกระจก"หน้าต่าง เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ปรีชา เสนดี รอง สว.สอบสวน สภ.บางใหญ่ แต่ตำรวจไม่รับเเจ้งความ โดยให้เหตุผลว่า ตนไม่ใช่เจ้าของบ้าน ถ้าจะเเจ้งความต้องมีใบมอบอำนาจ ถึงจะเเจ้งความได้ ซึ่งน้าชายของตนไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ได้มอบหมายให้ตนกับเเม่เป็นคนดูแลแทน
หลังจากนี้คงต้องรอให้ทางน้าชายกลับมาจากต่างประเทศก่อนถึงค่อยไปแจ้งความอีกครั้ง การปีนเข้ามาทุบกระจกหน้าต่างถือว่าทำครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ก็จะเอา"กาวมาหยอดกุญแจบ้าน" และพยายามที่จะเข้ามาอยู่ในบ้าน ตอนนี้รู้สึกเสียใจเพราะน้าชายอุตส่าห์ไว้วางใจให้เราดูแลบ้าน ถึงตนจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ตลอด แต่พอกลับมาดูเห็นสภาพบ้านเปลี่ยนไป เราก็ต้องรับผิดชอบ พอไปแจ้งความกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งวันเกิดเหตุตำรวจได้มาดูบริเวณรอบบ้านครั้งเดียว แต่ไม่ได้เข้ามาดูในบ้าน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้มากกว่านี้
ส่วนตัวคิดว่าตำรวจอาจจะไม่อยากคลี่คลายสถานการณ์ โดยตำรวจที่มาบอกว่ารีบ งานเยอะ จึงทำให้ตนทำอะไรต่อไม่ได้ ก็ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ส่วนคนทำนั้นเป็น"ป้าสะใภ้"ของตน ตนคิดว่าเขาน่าจะมีอาการทางจิตเวช เพราะตอนก่อเหตุไม่ใช่ว่าไม่มีสติเลย เขามีสติ มีการวางแผน สุดท้ายนี้อยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย
ภาพข่าว สาโรจน์ สว่างศรี